05 December 2008

เลข 13 หลักบนบัตรประชาชน


ไขปริศนาเลขบัตรประชาชนไทยทั้ง 13 หลัก


ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1228385167&grpid=01&catid=08
อยากรู้มั้ย ว่าแต่ละตำแหน่งหมายถึงอะไร ค้นหาคำตอบได้ที่นี่

โดยความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเรียนหรือทำอะไร ตัวเลขก็ล้วนมีเอี่ยว หรือมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนเราเสมอ และในทางกลับกัน ตัวเลขบางตัวอาจจะทำให้เรามีความสุขขึ้นด้วยซ้ำ เช่น ตัวเลขเพิ่มขึ้นของเงินเดือนหรือโบนัส ตัวเลขในบัญชีรายรับ ตัวเลขมูลค่าเพิ่มของหุ้นที่เราซื้อ ฯลฯ ยกเว้น ตัวเลขดอกเบี้ยเงินกู้ ที่งามโดยไม่ต้องรดน้ำ หรือตัวเลขยอดหนี้ที่ยังไม่จ่าย ส่วนตัวเลขที่น่ารังเกียจอีกตัว คือ ตัวเลขอายุที่เพิ่มขึ้นของสาวๆ ที่ยังไม่แต่งงาน เป็นต้น นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมี “ตัวเลข” ที่ เกี่ยวพันกับความเชื่อต่างๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศอีกหลายตัว เช่น คนไทยถือว่า เลข 9 เป็นเลขมงคล เพราะออกเสียงว่า “เก้า” ที่พ้องกับคำว่า “ก้าว” อันหมายถึง ความเจริญก้าวหน้า ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบัน เราจึงเห็นคนไทยจำนวนไม่น้อย ไปทัวร์ไหว้พระ 9 วัดเพื่อความเป็นสิริมงคล จนได้กลายมาเป็นการ “ทำบุญ” อีกรูปแบบที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย สำหรับฝรั่ง เขาจะถือว่า เลข 13 เป็นเลขอาถรรพ์ หรือเลขอัปมงคล หรือเรียกกันว่า ลัคกี้นัมเบอร์ (Lucky number) สาเหตุมาจากอาหารมื้อสุดท้าย ของพระเยซูคริสต์ ที่เรียกกันว่า เดอะลาสซับเปอร์ (The Last Supper) นั้น มีสาวกร่วมโต๊ะพร้อมกับพระองค์ นับรวมแล้วได้ 13 คนพอดี ครั้นวันรุ่งขึ้นซึ่งตรงกับวันศุกร์ พระองค์ก็ถูกจับตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์ เขาจึงถือว่าวันศุกร์ที่ตรงกับวันที่ 13 เป็นวันโชคร้าย
แม้ว่าเลข 13 จะเป็นเลขอาถรรพ์ของฝรั่ง แต่คนไทยโดยทั่วไป ไม่ได้ถือกับตัวเลขดังกล่าว และที่น่าสนใจคือ มี เลข 13 ที่เกี่ยวพันโดยตรงกับคนไทย ซึ่งเชื่อว่า คงมีคนอีกไม่น้อยไม่เคยทราบมาก่อน นั่นคือ เลขประจำตัวประชาชนในบัตรประชาชน หรือที่เดี๋ยวนี้เรียก สมาร์ทการ์ด ที่มีด้วยกัน 13 หลัก และแต่ละหลักก็มิใช่แค่เป็นเพียงจำนวนนับธรรมดาๆ แต่มีความหมายแฝงอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ขอนำมาเสนอเพื่อเป็นความรู้ ดังนี้
สมมุติว่า เลขบัตรประชาชนของเราเขียนไว้ว่า 1 1001 01245 29 9 (เขียนเว้นวรรค ตามแบบ) แต่ละหลักก็จะมีความหมายดังนี้ หลักที่ 1 (คือหมายเลข 1 ในตัวอย่าง) จะหมายถึง ประเภทบุคคล ซึ่งมีอยู่ 8 ประเภทได้แก่ ประเภทที่ 1 คือ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย และได้แจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา หมาย ความว่า เด็กคนใดก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2527 เป็นต้นไป อันเป็นวันเริ่มแรกที่เขาประกาศให้ประชาชนทุกคน ต้องมีเลขประจำตัว 13 หลัก เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองไปแจ้งเกิดที่อำเภอ หรือสำนักทะเบียนในเขตที่อยู่ภายใน 15 วันนับแต่เกิดมา ตามที่กฎหมายกำหนด เด็กคนนั้นก็ถือเป็นบุคคลประเภท 1 และจะมีเลขประจำตัวขึ้นด้วยเลข 1 เช่น เด็กหญิงส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2527 และพ่อไปแจ้งเกิดที่เขตดุสิตภายในวันที่ 17 มกราคม 2527 เด็กหญิงส้มจี๊ด ก็จะมีหมายเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 1 และก็ต่อด้วยเลขหลักอื่นๆ อีก 12 ตัว เป็น 1 1001 01245 29 9 เป็นต้น ซึ่งเลขนี้จะปรากฏในทะเบียนบ้าน และจะเป็นเลขประจำตัว เมื่อส้มจี๊ดไปทำบัตรประชาชนตอนอายุ 15 ปี ประเภทที่ 2 คือ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลา หมาย ความว่า เด็กคนใดก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2527 เป็นต้นไป แล้วบังเอิญว่าพ่อแม่ผู้ปกครองลืมหรือติดธุระ ทำให้ไม่สามารถไปแจ้งเกิดที่อำเภอหรือเขตภายใน 15 วันตามกฎหมายกำหนด เมื่อไปแจ้งภายหลัง เด็กคนนั้นก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท 2 และจะมีเลขตัวแรกในทะเบียนบ้านขึ้นด้วยเลข 2 ทันที เช่น ในกรณีส้มจี๊ด หากพ่อไปแจ้งเกิดให้ ในวันที่ 18 มกราคม 2527 หรือเกินกว่านั้น ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวเป็น 2 1001 01245 29 9 ในทะเบียนบ้าน และเมื่อไปทำบัตรประชาชนในภายหน้า
ประเภทที่ 3 คือ คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในสมัยเริ่มแรก (คือตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม 2527) หมาย ความว่า บุคคลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ณ ที่ใดที่หนึ่งในประเทศไทย มาตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 คนนั้นถือว่าเป็นบุคคลประเภท 3 และก็จะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 3 เช่น ส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2501 และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแล้ว ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวในทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนเป็น 3 1001 01245 29 9
ประเภทที่ 4 คือ คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญคนต่างด้าวแต่แจ้งย้ายเข้า โดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชน ในสมัยเริ่มแรก หมาย ความว่า คนไทยหรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญคนต่างด้าว ที่อาจจะเป็นบุคคลประเภท 3 คือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดิมอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้เลขประจำตัว ก็ขอย้ายบ้านไปเขตหรืออำเภออื่น ก่อนช่วงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 ก็จะเป็นบุคคลประเภท 4 ทันที เช่น ส้มจี๊ดมีชื่ออยู่ในสำนักทะเบียนเขตคลองสาน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2527 ส้มจี๊ดก็ขอย้ายบ้านไปเขตดุสิต โดยที่ส้มจี๊ดยังไม่ทันได้เลขประจำตัวจากเขตคลองสาน พอแจ้งย้ายเข้าเขตดุสิต ส้มจี๊ดก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท 4 มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วย 4 กลายเป็น 4 1001 01245 29 9 ทันที แต่ถ้าส้มจี๊ดย้ายจากเขตคลองสานเดิม ไปเขตดุสิต หลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 ส้มจี๊ดก็ยังเป็นบุคคลประเภท 3 อยู่ เพราะถือว่าจะได้เลขประจำตัวจากเขตคลองสานแล้ว จะย้ายอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนแปลง
การกำหนดให้บุคคลเริ่มมีเลขประจำตัว 13 หลักในทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2527 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 อันเป็นวันสุดท้าย ของการดำเนินการให้ประชาชน ที่ไม่มีเลขประจำตัวในบัตรหรือทะเบียนบ้าน ได้มีเลขประจำตัวจนครบแล้วนั้น ก็เพราะก่อนหน้านี้ ประเทศไทยยังไม่เคยมีการกำหนดเลขประจำตัวดังกล่าวมาก่อนเลย ดังนั้น ช่วงที่ว่าจึงเป็นระยะเวลาจัดระบบให้เข้าที่เข้าทาง เพราะหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 แล้ว ทุกคนจะต้องมีเลขประจำตัวเพื่อสำแดงตนว่า เป็นบุคคลประเภทใด โดยดูตามเงื่อนไขในแต่ละกรณี ซึ่งมีอีก 4 ประเภท คือ
ประเภทที่ 5 คือ คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อ เข้าไปในทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจ หรือกรณีอื่นๆ เช่น ส้มจี๊ดมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตดุสิตอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าตอนที่มีการสำรวจรายชื่อผู้อยู่ในบ้าน เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้ชื่อของส้มจี๊ดหายไปจากทะเบียนบ้าน เมื่อไปแจ้งเจ้าหน้าที่และตรวจสอบแล้วว่าตกสำรวจจริง หรือจะเป็นเพราะกรณีอื่นใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็จะเพิ่มชื่อให้ แต่ส้มจี๊ดก็จะมีหมายเลขในทะเบียนบ้านเป็นบุคคลประเภท 5 และบัตรประชาชนจะขึ้นต้นด้วยเลข 5 ทันที คือ กลายเป็น 5 1001 01245 29 9
ประเภทที่ 6 คือ ผู้ที่เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ในลักษณะชั่วคราว กล่าว คือ คนที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้สัญชาติไทย เพราะทางการยังไม่รับรองทางกฎหมาย เช่น ชนกลุ่มน้อยตามชายแดน หรือชาวเขา กลุ่มนี้ถือว่าเป็นผู้เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนบุคคลที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ชั่วคราว เช่น นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย แม้บางคนจะถือพาสปอร์ตประเทศของตน แต่อาจจะมีสามีหรือภริยาคนไทย จึงไปขอทำทะเบียนประวัติ เพื่อให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านสามีหรือภริยา คนทั้งสองแบบที่ว่า ถือว่าเป็นบุคคลประเภท 6 เลขประจำตัวในบัตรจะขึ้นต้นด้วยเลข 6 เช่น 6 1012 23458 12
ประเภทที่ 7 คือ บุตรของบุคคลประเภทที่ 6 ซึ่งเกิดในประเทศไทย คนกลุ่มนี้ในทะเบียนประวัติจะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 7 เช่น 7 1012 2345 133
ประเภทที่ 8 คือ คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมาย คือ ผู้ที่ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือคนที่ได้รับการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย และคนที่ได้รับการให้สัญชาติไทย ตั้งแต่หลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 เป็นต้นไปจนปัจจุบัน คนกลุ่มนี้เลขในทะเบียนประวัติจะขึ้นด้วยเลข 8 เช่น 8 1018 01234 24 7
คนทั้ง 8 ประเภทนี้ จะมีเพียงประเภทที่ 3, 4 และ 5 เท่านั้น ที่จะมีบัตรประชาชนได้เลย ส่วนประเภทที่ 1 และ 2 จะมีบัตรประชาชนได้ ก็ต่อเมื่อมีอายุถึงเกณฑ์ทำบัตรประจำตัวประชาชน คืออายุ 15 ปี แต่สำหรับบุคคลประเภทที่ 6, 7 และ 8 จะมีเพียงทะเบียนประวัติเล่มสีเหลืองเท่านั้น จะไม่มีการออกบัตรประชาชนให้
ต่อไปคือ หลักที่ 2 ถึงหลักที่ 5 (เลข 1001 ในตัวอย่างหรือสี่ตัวถัดไปจากตัวแรก) จะหมายถึง รหัสของสำนักทะเบียน หรืออำเภอที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนขณะที่ให้เลข ซึ่งก็หมายถึงถิ่นที่อยู่ของเรานั่นเอง กล่าวคือ เลขหลักที่ 2 และ 3 จะหมายถึงจังหวัดที่อยู่ ส่วนหลักที่ 4 และ 5 หมายถึงเขตหรืออำเภอในจังหวัดนั้นๆ เช่น ถ้าเขียนว่า 1001 ก็หมายถึงว่า คุณอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ในเขตดุสิต เพราะ 10๐ ในหลักที่ 2 และ 3 หมายถึงกรุงเทพมหานคร ส่วนเลข 01 ในหลักที่ 4 และ 5 คือรหัสของสำนักทะเบียนเขตดุสิต หรือถ้าเขียนว่า 1101 ก็จะหมายถึง อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง เพราะ 11 แรกคือ รหัสจังหวัดสมุทรปราการ และ 01 หลัง คือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นต้น
สำหรับ หลักที่ 6 ถึงหลักที่ 10 (เลข 01245 ในตัวอย่าง) จะหมายถึง กลุ่มที่ของบุคคลแต่ละประเภท ตามหลักแรก (หลักที่ 1) ซึ่งทางสำนักทะเบียนในแต่ละแห่ง ก็จะจัดกลุ่มเรียงไปตามลำดับ หรือหากเป็นเด็กเกิดใหม่ในปัจจุบัน เลขดังกล่าวก็จะหมายถึง เล่มที่ของสูติบัตร (ใบแจ้งเกิดที่อำเภอหรือเขตออกให้) ซึ่งก็คือเลขประจำตัวในทะเบียนบ้านของเด็กที่แต่ละอำเภอหรือเขตออกให้ และจะไปปรากฎในบัตรประชาชน เมื่อถึงอายุต้องทำบัตรนั่นเอง แต่ถ้ายังไม่ถึงเกณฑ์เลขนี้ ก็จะปรากฏอยู่แค่ในทะเบียนบ้านของเด็กเท่านั้น
หลักที่ 11 และ 12 (หมายเลข 29 ในตัวอย่างสมมุติ) จะหมายถึง ลำดับที่ของบุคคลในแต่ละกลุ่มประเภท เป็นการจัดลำดับว่าเราเป็นคนที่เท่าไรในกลุ่มของบุคคลประเภทนั้นๆ
หลักที่ 13 (เลข 9 ตัวสุดท้ายในตัวอย่าง) จะหมายถึง ตัวเลขสำหรับตรวจสอบความถูกต้องของเลขทั้ง 12 หลักแรกอีกที
สำหรับเลขตั้งแต่หลักที่ 6 ถึง 13 นี้เป็นการจัดหมวดหมู่ และเรียงลำดับบุคคลในแต่ละประเภทของสำนักทะเบียนในแต่ละท้องที่ ซึ่งเราก็คงไม่ต้องรู้รายละเอียดอะไรลึกไปกว่านี้ เพราะรู้แล้วอาจจะงงเปล่าๆ
เป็นเรื่องน่าแปลกว่า ตัวเลข 13 หลักที่เป็นหมายเลขในบัตรประชาชน หรือเลขประจำตัวประชาชนของเราแต่ละคนนี้ จะไม่มีการซ้ำกันเลย ผิดกับชื่อหรือนามสกุล ยังมีซ้ำกันได้ และจะเป็นเลขประจำตัวเราจนตาย ไม่มีการเปลี่ยน หรือยกให้คนอื่น และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า ในอนาคตจะต้องมีการเติมเลข อย่างเลข 8 เข้าไปอีก เพราะเลขไม่พอใช้เหมือนโทรศัพท์มือถือหรือไม่ เขาก็บอกว่าคงอีกนาน อาจจะถึง 100 ปีโน่น เพราะการที่เขาแยกแยะบุคคลเป็นประเภทต่างๆ และยังแยกย่อยเป็นจังหวัดอำเภอ แล้วลงรายละเอียดไปเป็นกลุ่มๆในแต่ละประเภทอีกนั้น ทำให้เพดานหรือช่วงตัวเลขมีความห่างมาก จนสามารถรองรับจำนวนคนได้อีกมาก และหากใครสงสัย หรือมีปัญหาในเรื่องทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส บัตรประชาชน ก็สามารถสอบถามไปได้ที่ สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทร. 1548
ตัวเลข 13 หลักที่กล่าวข้างต้น เป็นเลขประจำตัวประชาชนของแต่ละคนนี้ แม้จะมิใช่ตัวเลขที่เราต้องใช้เป็นประจำในชีวิตประจำวัน ยกเว้นใช้ในการกรอกเอกสารบางอย่าง เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร ฯลฯ แต่เลขนี้ก็มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นการสำแดงตัวตน “ความเป็นคนไทยหรือคนในประเทศไทย” ที่ทำให้เราสามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทย และใช้สิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ ขอขอบคุณข้อมูลข่าว : อมรรัตน์ เทพกำปนาท สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม

26 November 2008

the Wanted

นานมากแล้วที่ไม่ได้ดูหนัง
หนังเรื่องนี้ได้รับจากน้องที่ทำงาน ด้วยประโยค แกมีอะไรดูมั้งว่ะ
หนังเรื่องนี้เริ่มด้วย google ใช้เพื่อค้นหาตัวเองของพระเอก แต่ไม่มีข้อมูลแล้วหนังก็ดำเนินเรื่องไปอย่างรวดเร็ว จากตัวเอกเป็นพนักงานบัญชีธรรมดา ๆ ไปผูกโยงเป็นลูกมือฆ่ามือพระกาฬขององค์กรนักฆ่าแห่งหนึ่ง ที่พ่อได้ทิ้งตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ แต่หักหลังองค์กร (แต่สุดท้ายแล้วจริง ๆ องค์กรเป็นผู้หักหลังจริง ๆ ) เนื้อเรื่องคล้าย ๆ นิยายกำลังภายในเก่า ๆ ที่มีเนื้อเรื่องว่าศัตรูได้เก็บลูกไว้แล้วเลี้ยงให้เติบโตมาโดยใส่ความเกลียดชังพ่อของตัวเอง แล้วให้ไปล้างแค้นแทนตัวเอง ประมาณนี้ แต่เรื่องนี้ หักไปอีกมุมหนึ่งที่ไม่ไปสาวถึงวัยเด็ก แต่สุดท้ายการที่ฝึกมาอย่างดีก็เป็นภัยแก่ตัวเองเหมือนกัน และยังมีจุดที่น่าสนใจคือ เครื่องทอผ้าชะตาชีวิต ที่ทอผ้าที่มีรหัส เป็นเลขฐาน 2

14 October 2008

เปิดหมวกล้วงชีวิต...คิดแบบ โน้ส-อุดม

จากผู้ชายรูปร่างหน้าตาธรรมดา ที่มีจมูกรูปชมพู่โดดเด่น กลายเป็นลักษณะเฉพาะตัว ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง บวกกับการสั่งสมประสบการณ์อันชาญฉลาด และนำสิ่งที่ถ่ายทอดสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบของทอล์กโชว์ ในชื่อ "เดี่ยวไมโครโฟน" ทำรายได้มหาศาล ส่งพาให้ โน้ส-อุดม แต้พานิช กลายเป็นผู้ทรงอินทธิพลอีกคนหนึ่งของวงการบันเทิง ที่ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไร ก็ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จ และเป็นที่ถูกจับตามองทุกครั้งไป ตัวตนคนแบบ โน้ส-อุดม คิดว่าตัวเองเป็นคนแปลกหรือเปล่า ผมชอบคิดว่าคนอื่นแปลกมากกว่า เพราะนั่งรถตู้ไปทำงานกับคนที่ไม่รู้จัก มีบางคนคุยโทรศัพท์ในรถ เกลียดก็เกลียดแต่ก็ต้องฟังมัน แล้วพอถึงที่ทำงานต้องรอลิฟต์อีก นี่แหละประหลาด แต่ก็เคยเจอรุ่นน้องมาถามเหมือนกัน ว่าพี่โน้สคิดว่าตัวเองเป็นคนปกติเหรอ ไม่เคยคิดเหรอ ว่าตัวเองประหลาด ปกติผมไม่เคยมองมุมนี้มาก่อนเลย คิดแต่ว่าคนอื่นประหลาดมาตลอด สงสัยเราชินกับตัวเราที่เป็นแบบนี้มั้ง แต่ถ้าวัดจากคนใกล้ๆ ตัว ก็ไม่น่าจะปกตินะ แท้จริงแล้ว โน้ส-อุดมเป็นคนอย่างไร ผมเป็นคนอ่อนไหวง่าย จริงจังกับเรื่องไร้สาระ และรู้ว่าตัวเองชอบอะไร แล้วก็เลือกที่จะใช้ชีวิตแบบที่เราชอบ ซึ่งจริงอยู่มันอาจสูญเสียโอกาสบางอย่าง เราอาจจะไม่มีความมั่นคงทางการเงิน ไม่มีอะไรมาการันตีเงินเดือนในแต่ละเดือน แต่เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราเลือก ผมมีวิธีคิดง่ายๆ คือถ้าอยากมีชีวิตที่อิสระก็อย่าไปเป็นหนี้ ไม่บ้าแฟชั่น ฉะนั้นไม่ว่าปีนี้แฟชั่นอะไรมาก็ทำอะไรผมไม่ได้ ผมก็จะอยู่เชยๆ ของผมแบบนี้แหละ เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงหรือเปล่า เห็นเขาว่าอย่างนั้นนะ แต่ผมกลับคิดว่าเป็นโลกปกติ เพราะคนทุกคนก็ต้องมีพื้นที่ของตัวเอง แล้วค่อยมีสะพานเชื่อมหากันบ้าง แต่ไม่ต้องมาอยู่แบบเบียดๆ กัน ยอมรับเป็นคนไม่ค่อยเปิดให้ใครเข้ามาง่ายๆ ผมมีเพื่อนเยอะ แต่เพื่อนสนิทน้อยมาก เนื่องจากปิดตัวเอง กว่าจะเปิดใจให้ใครเข้ามาในเส้นรัศมีต้องใช้เวลานานเลยแหละ ทำไมถึงเปิดรับคนยาก ความจริงผมไม่ได้เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดหรอก แต่เป็นตอนเข้าวงการ ในชีวิตโดนคนสนิททำให้เจ็บซ้ำน้ำใจ ไม่ว่าจะเรื่องเงิน คนรัก ที่โดนทิ่มแทงข้างหลัง เลยทำให้เราเป็นคนกลัวคน ดังนั้นวิธีปลอดภัยที่สุด ในเมื่อคนเป็นตัวปัญหาก็อย่าไปยุ่งกับคน คนเยอะเรื่องเยอะ เลยทำตัวให้ห่างๆ คน แต่ทุกวันนี้ดีขึ้นเยอะ แง้มให้คนเข้ามาบ้าง แต่ไม่ได้เปิดอ้าซ่า ที่เป็นแบบนี้อยากทำตัวโดดเด่นหรือเปล่า ประการแรก ไม่ได้คิดว่าจะทำตัวแตกต่างจากคนอื่นเลย ไม่ได้อยากเป็นเด็กแนว หรือว่าต้องคิดต่างคนอื่น อันนี้ไม่มีในหัว แค่รู้ว่าตัวเองชอบแบบนี้ ชอบอิสระในการใช้ชีวิตแบบนี้ ที่ได้ทำอะไรตามใจ ซึ่งก็หานิยามไม่ได้หรอกว่ามันคืออะไร กว่าจะมาเป็น โน้ส-อุดม อะไรในตัว "โน้ส" อุดม ที่ทำให้คนชอบ ผมถือว่าเป็นบุญมากที่คนเกิดชอบงานของผม เคยมีคนมาพูดกับผม ว่าพี่โน้สเป็นคนโชคดีนะ ที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบแล้วได้ตังค์ด้วย รู้มั้ยมันไม่ได้เป็นกันได้ทุกคนนะ เออ...ผมก็กลับมาคิดว่าจริง เพราะงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ คือสิ่งที่ชอบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นวาดรูป เขียนหนังสือ และเดี่ยวฯ นี่รักเลย เป็นสิ่งที่ทำได้ถนัดเลย ได้เล่าเรื่องที่ไปเจอมา แล้วเห็นคนขำไปกับมุกของเรา ถ้าวันหนึ่งแสดงเดี่ยวฯ แล้วคนไม่ขำกับสิ่งที่เล่าจะทำอย่างไร นั่นน่ะสิ...ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ก็คงเหมือนโดนธรณีสูบมั้ง ผมคิดว่าผมน่าจะรู้ตัวเร็วนะ เพราะถ้าคนไม่ขำกับเรื่องที่ผมเล่า ผมคงไม่ดันทุรังทำต่อไปหรอก เมื่อถึงเวลานั้นผมคงรู้ตัว คนเรามันจะมีสัญชาตญาณบางอย่างบอกอยู่ ก็คงจะกันตัวเองไปทำอย่างอื่นแทน ผมไม่อายทำกินไม่หมิ่นเงินน้อย เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ ไม่จำเป็นจะต้องทำเดี่ยวฯ อย่างเดียว แต่ก็ขอทำเดี่ยวฯ 8 อีกสักทีก่อนนะ ทำไมเดี่ยวไมโครโฟนต้องล้อการเมืองทุกครั้ง การเมืองสำหรับผมมันก็เหมือนมวยปล้ำ ที่ไม่ได้ต่อสู้กันจริงๆ มันเป็นละคร ต่อยไม่ถูกกันด้วยซ้ำ แต่คนดันเคลิ้มไปจริงๆ กับมัน ฉะนั้นผมจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นมากเวลาใครได้เข็มขัด คิดว่าที่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นเพราะพรสวรร์ หรือพรแสวง ความขยันของผมนี่แหละ ที่ได้พาสิ่งต่างๆ ให้มันเกิดขึ้นกับตัวเองจนมาถึงทุกวันนี้ ในสมัยแรกที่ทำเดี่ยวก็เคยมีไปเล่นแล้วคนไม่ขำเหมือนกัน เลยทำให้เราได้เรียนรู้ศาสตร์แขนงนี้ ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด สิ่งเหล่านั้นมันช่วยขัดเกลา ผมไม่ได้เป็นคนเล่าอะไรแล้วตลกทุกเรื่องหรอก ไม่ได้เป็นคนมหัศจรรย์ขนาดนั้น แต่ชอบหาประสบการณ์ ซึ่งประสบการณ์ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ผิดพลาด แค่พลาดน้อยกว่าคนไม่มีก็เท่านั้นเอง งานเขียนหนังสือจะออกเมื่อไร อยากออกเหมือนกัน ใจน่ะอยากเขียนแต่สังขารไม่เอื้อ สายตาไม่ค่อยไหว และไม่โกรธด้วยที่ถูกเรียกว่างานเขียนของผมเป็นขยะวรรณกรรม เพราะจริงๆ ไดอารี่มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา แต่ละวันที่ผ่านมามันก็คือขยะ และผมก็เป็นคนขายขยะที่เก็บเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาใช้ใหม่ ยอมรับเมื่อ 10 ปีก่อนโดนว่าอย่างนี้แล้วมีน้อยใจเหมือนกันนะ ซึ่งตั้งใจเอาไว้ ว่างานหนังสือของผม ถ้าเขียนเสร็จก็จะออกทันที เนื่องจากงานเขียนของผมมันได้เป็นต้นกำเนิดของการทำเดี่ยวไมโครโฟน อาชีพจริงๆ ของ โน้ส-อุดม คืออะไร ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาไปต่างประเทศ ไปโรงพยาบาลแล้วโดนให้กรอกอาชีพ ก็จะบอกไปว่าขายบริการ นักวางแผนการตลาดให้ตัวเอง เป็นคนสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเองเก่ง มีคนเขาวิจารณ์มาเหมือนกัน ว่าพี่โน้สเก่งการตลาดหายไปแล้ว รู้จังหวะการปรากฏตัว มีหมอดูหรือเปล่า ผมไม่เคยมีอะไรเลย และไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งขนาดนั้นหรอก ใช้สัญชาตญาณล้วนๆ เราไม่เคยเรียนการตลาดมา ไม่ได้วางแผนอะไรเลย ก็ทำกันแบบบ้านๆ นี่แหละ อย่างเดี่ยวฯ คิดอยากทำตอนไหนมีเรื่องเล่าอยากเล่าแล้วก็ทำเลย และไม่เคยไปเรียนที่โรงเรียนทำเดี่ยวไมโครโฟนที่ไหนเลย อยากเรียนเหมือนกันนะ แต่ไม่มีโรงเรียนสอนจะไปเรียนต่างประเทศ ภาษาอังกฤษก็ไม่เก่ง ทุกวันนี้เรียนรู้จากความผิดพลาด โดยใช้ปัญญามากำกับ อย่างตอนที่ออกจากยุทธการขยับเหงือกใหม่ๆ แล้วมาทำเดี่ยวฯ ก็ล้มลุกคุกคลานเหมือนกัน แต่จะถอยหลังก็ไม่ได้ เพราะทุบหม้อข้าวตัวเองมาแล้ว ช่วงแรกๆ เคยมีขึ้นไปเล่าอะไรแล้วคนไม่ขำเหมือนกัน ความเจ็บปวดมันมีนะ ซึ่งเราก็ต้องรับหมดแหละ ไม่หล่อแต่ได้เป็นพระเอก หัวเราะ...นั่นน่ะสิ ทุกวันนี้ดูโปสเตอร์รูปตัวเองติดข้างหลังบ้าน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพระเอกได้ยังไงเหมือนกัน ส่วนประเด็นการเลือกบทหนังนั้น ใครก็ต้องเลือกบท ผมไม่ได้เป็นนักแสดงฮอลลีวู้ดที่จะเล่นได้ทุกบทบาท ความฝันสูงสุดอยากทำอะไร อยากเห็นตัวเองนั่งอยู่บ้านที่เชียงใหม่อากาศโปร่งๆ แล้วผมนั่งวาดรูปอยู่ มีหมาสักตัวหนึ่ง มีเสียงเพลงวิทยุเอเอ็ม หรือเอฟเอ็มก็ได้ ส่วนเหตุผลที่ชอบที่นั่นเป็นเพราะจังหวะชีวิตมันตรงกับผมดี ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าเรียกจังหวะอะไรเป็นจังหวะอะไร เป็นจังหวะต๊ะต๊อนง้อนมั้ง อยู่กรุงเทพฯ มันก็เร็วไป อุปมาถ้าเป็นคู่เต้นรำเขาก็เต้นเหยียบเท้าผม แต่เชียงใหม่เข้ากันได้พอดี และไม่ว่าที่กรุงเทพฯ มีอะไรเชียงใหม่ก็มีอย่างนั้น แต่ที่เข้ามากรุงเทพฯ เนื่องจากงานมันอยู่ที่นี่ และแม่ก็อยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วย เลยไปๆ มาๆ แต่สุดท้ายบั้นปลายผมก็อยากไปใช้ชีวิต และไปตายที่เชียงใหม่แน่ๆ เคยชวนให้แม่ไปอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แต่ท่านไม่ไปบอกว่าเพื่อนอยู่ที่นี่ ก็เลยตามใจเพราะแม่ทั้งคน ทุกวันนี้มองว่าตัวเองดังหรือเปล่า จะไปกล้าตอบได้ไง ผมรู้สึกว่าตัวเองดังตอนอยู่ยุทธการขยับเหงือก จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง เป็นตัวประกอบ แล้วมาทำพิธีกรก็กลายเป็นที่รู้จักมีคนทัก ส่วนทุกวันนี้ที่เป็นอยู่มันเป็นอะไรที่เกินคาดคิดเยอะ กับหนังเรื่องล่าสุด อีติ๋มตายแน่ นอกจากแสดงแล้ว ได้ข่าวว่าเขียนบทเอง เป็นการเขียนบทหนังครั้งแรก ความจริงแล้ว จะทำหนังร่วมกับต้อม (ยุทธเลิศ สิปปภาค) ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่จังหวะเวลาไม่ตรงกัน ตอนนี้ว่าง ต้อมก็เลยมาชวน ตอนแรกก็งงจะทำดีหรือไม่ สุดท้ายทำก็ได้ ยอมรับว่ายากกว่าการทำเดี่ยวฯ เนื่องจากหนังจะต้องมีระบบของนายทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เดี่ยวฯ ทำอิสระ ตามใจเรา พอจะมีเดี่ยวทีไรจะต้องมีงานหนังควบคู่กันมาทุกครั้ง ไม่เคยสังเกตตัวเองนะ อาจเป็นช่วงจังหวะเวลาพอดี งงเหมือนกัน ก็มีคนบอกแบบนี้ แต่ผมก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้นะ ไม่เคยแพลน ว่ามีเดี่ยวฯ แล้วจะต้องเล่นหรือทำหนัง
"โน้ส" กับความรัก จะแต่งงานกับ "ปลา" อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของร้านไอศกรีม "iberry" เมื่อไร กับปลาก็ดี ถ้าขืนตอบว่าคนนี้ไม่ใช่เขาต้องมาตีกบาลแน่ๆ ส่วนเรื่องแต่งงานเราค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้คบกันมา 3 ปีแล้ว มันได้ผ่านช่วงโปรโมชั่นมาแล้ว คราวนี้เป็นช่วงโทรจริง ก็ต้องดูกัน ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น เนื่องจากมันเป็นช่วงที่ตัวจริงของแต่ละคนออกมาทั้งเราและเขา อันนี้แหละชีวิตจริง ก็ต้องดูกันยาวๆ ไม่เชื่อเสียงเชียร์ให้รีบเเต่ง เพราะคนที่อยู่คือผม ตอนนี้เราดูเขา เขาดูเราไปก่อน มีภาพหลุดอี๋อ๋อกับสาวอื่นที่ไม่ใช่ "ปลา" อันนั้นอย่าไปถือสาเลย ถ่ายกันเล่นๆ ถ้าจะเอารูปพวกนั้นมาพูดมีเยอะ เป็นพันๆ รูป แทบทุกวันนี้ไม่ต้องเดือดร้อน ผมเป็นคนเจ้าชู้นะ ไม่ได้หยุด แต่มันจะช้าไปเองเป็นช่วงของผู้ชาย ที่ตอนเริ่มแตกหนุ่ม มันก็จะมีดีกรีของมัน แต่ถึงทุกวันนี้อยากเจ้าชู้ สังขารก็ไม่เอื้อ สามทุ่มก็ง่วงแล้ว จะไปเต้นหลีสาว เพลงก็คนละรุ่น สภาพแวดล้อมจะเป็นตัวขัดเกลาเราไปเอง ตอนนี้จะให้ผมไปมีแฟนเด็ก เราจะคุยกันคนละภาษาโต้ตอบกันไม่รู้เรื่อง น้อยใจหรือเปล่าโดนว่าขี้เหร่แต่ชอบมีแฟนสวย (หัวเราะ)...ไม่เลย จะไปรู้สึกอะไร ก็จริงอย่างที่เขาพูด ก็เขาพูดถูกแล้ว ทุกวันนี้ส่องกระจกก็รู้ตัวเองดี ว่าตัวเองเป็นยังไง เขาแหละ..."โน้ส" อุดม ประวัติ โน้ส-อุดมวัน เดือน ปีเกิด...1 กันยายน 2511 พี่น้อง...3 คน บ้านเกิด...ชลบุรี งานแรก...เป็นคนเขียนการ์ตูนที่ชัยพฤกษ์ ผลงานสร้างชื่อเสียง...ยุทธการขยับเหงือก เดี่ยวไมโครโฟน รางวัล...ได้รางวัล "คม ชัด ลึกอวอร์ด" ปี 2549 นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากหนังโคตรรักเอ็งเลย
ที่มา http://women.sanook.com/dreammodel/guy/guy_52086.php

06 October 2008

คำสั่ง DOS

คำสั่งใน Command line จะเอาไปสอบค่า

1. เมื่อเปิดเครื่องเรียบร้อยแล้ว ให้ระบบกำหนดวันที่เป็นวันที่ 20 กันยายน 2542 อย่าอัติโนมัติทุกครั้ง

1. date

2. ใช้คำสั่งเพื่อต้องการสอบถามว่า พื้นที่ใน disk มีว่างเท่าไหร่

2. คำสั่งแสดงพื้นที่โดยตรงไม่แน่ใจ แต่ถ้าใช้ dir มันมีบอกพื้นที่ว่างให้ด้วย

3. ตรวจสอบว่าแผ่น Disk ที่ได้มาชื่ออะไร

คำสั่งแสดงพื้นที่โดยตรงไม่แน่ใจ แต่ถ้าใช้ dir มันมีบอกพื้นที่ว่างให้ด้วย

4. ลบแฟ้มข้อมูลที่มีสกุลเป็น tmp ใน Current Directory

del

5. ขอดูHelp ของคำสั่ง DIR

dir /?

6. ให้แสดงเฉพาะชื่อไฟล์ และสกุลไม่ต้องการชื่อ Sud Directory

dir แหละมั้ง แต่ออพชั่นไหนไม่รู้ ไปไล่ดูเองละกัน

7. ต้องการค้นหา File ที่ชื่อ Angsaub.ttf

dir Angsaub.ttf ถ้าจะค้นใน sub directory ด้วย ก็ใช้ /s ต่อท้ายเข้าไป

8. ให้แสดงเฉพาะชื่อไฟล์และสกุล ไม่ต้องการ SubDirectory ทั้งหมดใน drive C:

dir /a-d ปกติแล้ว /a จะตามด้วยชนิดไฟล์ที่เราต้องการให้แสดง ถ้าใส่ - ข้างหน้า จะเปลี่ยนเป็นไม่ให้มันแสดง

9. ให้แสดงเฉพาะชื่อไฟล์ และสกุลเป็นอักษรตัวพิมพ์เล็ก ไม่ต้องการชื่อ Sub Directory ทั้งหมดในdrive C: และให้เรียงตามชื่อ และเมื่อแสดงเต็มจอภาพแล้วให้รอตรวจสอบจนพอใจ กดปุ่มใดๆ แสดงผลที่เหลือต่อ

9. ถึง 12. ไปนั่งไล่ดูออพชั่นของ dir เอาแล้วกัน

10. เหมือนข้อ 9 แต่ต้องการให้เรียกจากมากไปหาน้อย(Z-A)

11. เหมือนข้อ 9 แต่ให้เรียงตามขนาดไฟล์ ขนาดใหญ่ไปหาเล็ก

12. ให้แสดงทุกไฟล์ที่มีชื่อที่ขึ้นต้นด้วย w และมีสกุล log จากDrive C: ทั้งหมด

13. ให้สร้าง Subdirectory IT_311 ใน ROOT ของ drive D:

mkdir

14. ให้เปลี่ยนการติดต่อไปที่ Drive D: ใน Subdirectory
IT_311

cd หรือ chdir

15. ให้สร้าง Sub Diretory เพิ่มอีก 3 ชื่อ คือ data1 data2 data3 .DAT

mkdir

16. ให้แสดงเฉพาะชื่อไฟล์ และสกุล เป็นอักษรตัวพิมพ์เล็ก ไม่ต้องการSub Diretory ทั้ง Drive C: และให้เรียงตามสกุล และให้เก็บผลลัพธ์ไว้ในแฟ้มที่ชื่อ SALLF.TXT ใน D:\IT_311\DATA3.DAT

วิธีสั่ง dir ให้แสดงผลเก็บเป็นไฟล์ ให้เข้าไปดูตามลิ๊งค์ข้างบน แล้วเลื่อนลงไปดูบรรทัดสุดท้าย

17. ให้ใช้คำสั่ง EDIT ดูช้อมูลที่ได้ในไฟล์ D:\IT_311\DATA3.DAT

edit

18. สำเนาแฟ้ม COMMAND.COM จาก C:\ เก็บไว้ใน D:\IT_311\DATA1

copy

19. ให้สำเนา *.log จากทุก SubDirectory ใน Drive C:
และเก็บใน D:\IT_311\DATA1



20. ให้ลบSubDirectory D:\IT_311\DATA1

deltree

21. ให้สร้างแฟ้มข้อมูลชื่อ test.txt ใน Current Directory ขนาด 0 Byte
มีสองวิธี
วิธีแรก ใช้คำสั่ง copy con รายละเอียดให้เข้าไปดูที่ตัวอย่างสุดท้ายของ copy ตามลิ๊งค์ข้างบน หรือตามรูปข้างล่าง (สัญลักษณ์ ^Z มาจากการกด ctrl+Z)
วิธีที่สอง ใช้คำสั่ง edit มันจะเรียกโปรแกรม edit ขึ้นมาให้


ช่วยตอบให้ด้วยนะค่ะ ขอภายในวันนี้

รบกวนด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : Cs16 -[ 29 ก.ย. 51 - 11:38:42 A:202.12.73.18 X: ]

from http://www.pantip.com/tech/comsci/topic/CS2648702/CS2648702.html

DOS command


MS-DOS and command line overview

Below is a listing of each of the MS-DOS commands currently listed on Computer Hope and a brief explanation of what each of the commands do. The below commands are all MS-DOS commands, which means not all the below commands will work in your version of MS-DOS and/or Windows command line. Clicking on the command will open the help page for that command with full details about it.

Command Description
Aansi.sysNSI.SYS Defines functions that change display graphics, control cursor movement, and reassign keys.
append Causes MS-DOS to look in other directories when editing a file or running a command.
arp Displays, adds, and removes arp information from network devices.
assign Assign a drive letter to an alternate letter.
assoc View the file associations.
at Schedule a time to execute commands or programs.
atmadm Lists connections and addresses seen by Windows ATM call manager.
attrib Display and change file attributes.
batch Recovery console command that executes a series of commands in a file.
bootcfg Recovery console command that allows a user to view, modify, and rebuild the boot.ini
break Enable / disable CTRL + C feature.
cacls View and modify file ACL's.
call Calls a batch file from another batch file.
cd Changes directories.
chcp Supplement the International keyboard and character set information.
chdir Changes directories.
chdsk Check the hard disk drive running FAT for errors.
chkntfs Check the hard disk drive running NTFS for errors.
choice Specify a listing of multiple options within a batch file.
cls Clears the screen.
cmd Opens the command interpreter.
color Easily change the foreground and background color of the MS-DOS window.
command Opens the command interpreter.
comp Compares files.
compact Compresses and uncompress files.
control Open Control Panel icons from the MS-DOS prompt.
convert Convert FAT to NTFS.
copy Copy one or more files to an alternate location.
ctty Change the computers input/output devices.
date View or change the systems date.
debug Debug utility to create assembly programs to modify hardware settings.
defrag Re-arrange the hard disk drive to help with loading programs.
del Deletes one or more files.
delete Recovery console command that deletes a file.
deltree Deletes one or more files and/or directories.
dir List the contents of one or more directory.
disable Recovery console command that disables Windows system services or drivers.
diskcomp Compare a disk with another disk.
diskcopy Copy the contents of one disk and place them on another disk.
doskey Command to view and execute commands that have been run in the past.
dosshell A GUI to help with early MS-DOS users.
drivparm Enables overwrite of original device drivers.
echo Displays messages and enables and disables echo.
edit View and edit files.
edlin View and edit files.
emm386 Load extended Memory Manager.
ename Recovery console command to enable a disable service or driver.
endlocal Stops the localization of the environment changes enabled by the setlocal command.
erase Erase files from computer.
exit Exit from the command interpreter.
expand Expand a Microsoft Windows file back to it's original format.
extract Extract files from the Microsoft Windows cabinets.
fasthelp Displays a listing of MS-DOS commands and information about them.
fc Compare files.
fdisk Utility used to create partitions on the hard disk drive.
find Search for text within a file.
findstr Searches for a string of text within a file.
fixboot Writes a new boot sector.
fixmbr Writes a new boot record to a disk drive.
for Boolean used in batch files.
format Command to erase and prepare a disk drive.
ftp Command to connect and operate on a FTP server.
ftype Displays or modifies file types used in file extension associations.
goto Moves a batch file to a specific label or location.
graftabl Show extended characters in graphics mode.
help Display a listing of commands and brief explanation.
if Allows for batch files to perform conditional processing.
ifshlp.sys 32-bit file manager.
ipconfig Network command to view network adapter settings and assigned values.
keyb Change layout of keyboard.
label Change the label of a disk drive.
lh Load a device driver in to high memory.
listsvc Recovery console command that displays the services and drivers.
loadfix Load a program above the first 64k.
loadhigh Load a device driver in to high memory.
lock Lock the hard disk drive.
logoff Logoff the currently profile using the computer.
logon Recovery console command to list installations and enable administrator login.
map Displays the device name of a drive.
md Command to create a new directory.
mem Display memory on system.
mkdir Command to create a new directory.
mode Modify the port or display settings.
more Display one page at a time.
move Move one or more files from one directory to another directory.
msav Early Microsoft Virus scanner.
msd Diagnostics utility.
msdex Utility used to load and provide access to the CD-ROM.
nbtstat Displays protocol statistics and current TCP/IP connections using NBT
net Update, fix, or view the network or network settings
netsh Configure dynamic and static network information from MS-DOS.
netstat Display the TCP/IP network protocol statistics and information.
nlsfunc Load country specific information.
nslookup Look up an IP address of a domain or host on a network.
path View and modify the computers path location.
pathping View and locate locations of network latency.
pause Command used in batch files to stop the processing of a command.
ping Test / send information to another network computer or network device.
popd Changes to the directory or network path stored by the pushd command.
power Conserve power with computer portables.
print Prints data to a printer port.
prompt View and change the MS-DOS prompt.
pushd Stores a directory or network path in memory so it can be returned to at any time.
qbasic Open the QBasic.
rd Removes an empty directory.
ren Renames a file or directory.
rename Renames a file or directory.
rmdir Removes an empty directory.
route View and configure windows network route tables.
runas Enables a user to execute a program on another computer.
scandisk Run the scandisk utility.
scanreg Scan registry and recover registry from errors.
set Change one variable or string to another.
setlocal Enables local environments to be changed without affecting anything else.
setver Change MS-DOS version to trick older MS-DOS programs.
share Installs support for file sharing and locking capabilities.
shift Changes the position of replaceable parameters in a batch program.
shutdown Shutdown the computer from the MS-DOS prompt.
smartdrv Create a disk cache in conventional memory or extended memory.
sort Sorts the input and displays the output to the screen.
start Start a separate window in Windows from the MS-DOS prompt.
subst Substitute a folder on your computer for another drive letter.
switches Remove add functions from MS-DOS.
sys Transfer system files to disk drive.
telnet Telnet to another computer / device from the prompt.
time View or modify the system time.
title Change the title of their MS-DOS window.
tracert Visually view a network packets route across a network.
tree View a visual tree of the hard disk drive.
type Display the contents of a file.
undelete Undelete a file that has been deleted.
unformat Unformat a hard disk drive.
unlock Unlock a disk drive.
ver Display the version information.
verify Enables or disables the feature to determine if files have been written properly.
vol Displays the volume information about the designated drive.
xcopy

Copy multiple files, directories, and/or drives from one location to another.


from http://www.computerhope.com/overview.htm

04 October 2008

แนะนำThe KMPlayer โปรแกรม mediaplayer ดีๆ

ก่อนอื่น ขอกล่าวอะไรสักนิดว่า ไม่ได้ เรียบเรียง ให้ดีพอ และ รีบร้อนในการเขียน ถ้าผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยครับ The KMPlayer พัฒนาโดยคนเกาหลี เป็น โปรแกรมสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows (แนะนำ Windows2000 XP ขึ้นไป) ที่สามารถ เล่นไฟล์ Video และ Audio ได้โดยตัวเอง(ไม่ต้องติดตั้งCODEC เพิ่มเติม) เช่นเดียวกับ VLC media player ซึ่งรองรับไฟล์แบบต่างๆมากมาย แต่ สามารถเพิ่มเติมและปรับแต่ง codec จาก ภายนอกได้ เช่นติดตั้ง k-lite mega codec pack เสริมเข้าไป รวมถึง รูปร่างหน้าตาส่วนติดต่อกับผู้ใช้(User Interface)ที่ดีกว่า VLC media player จึงทำให้ ง่ายต่อการใช้งาน ชื่อเต็ม ของ The KMPlayer คือ The K-Multimedia Player ซึ่ง K มาจากชื่อสกุลของผู้พัฒนา ปัจจุบัน version 2.9.3.1210 (5 มกราคม 2007) สามารถเล่น ไฟล์รูปแบบต่างๆได้หลากหลายดังต่อไปนี้ avi (แม้ไฟล์ที่เสียหาย หรือ ไม่สมบูรณ์ก็เล่นได้ แต่จะข้ามส่วนที่ไม่ดีไป) screen.width-401) window.open('http://img441.imageshack.us/img441/4096/yuirollingstar002505192xg8.jpg');" src="http://img441.imageshack.us/img441/4096/yuirollingstar002505192xg8.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> แบบนี้ (อันนี้ ยังโหลดไม่ทันเสร็จใน bittorrent ก็ขอลองดูก่อน ว่าใช่ของจริงหรือเปล่า) mpg,dat,vob (MPEG-1,2,4 VCD,DVD),mkv, mp4,m4v,ogm ไฟล์window media อย่าง wmv wma asf ไฟล์audio อย่าง cda(CD-AUDIO) mp3,mp4,m4a,mpc,ogg,ape,wav,flac,wv (ไฟล์อย่าง mp3 หากอยู่ใน zip,rar สามารถเล่นได้โดยไม่ต้อง extractออกมา) ไฟล์ตระกูล real เช่นra ,rm,ram, rmvb ควรติดตั้ง real player หรือ real alternative เสริมเข้าไป เช่นเดียวกับตระกูล quicktime เช่น mov ,qt... ควรติดตั้ง quicktime /alternative เสริมเข้าไป ซึ่งมีอยู่ใน K-lite mega codec pack Google Video(gvi)Flash Video(flv), Nullsoft Streaming Video(nsv), 3g2,3gp เป็นต้น มาดูหน้าตา การใช้งาน และTIP&TECHNIC ดีกว่าครับ screen.width-401) window.open('http://img90.imageshack.us/img90/4585/km1lh8.jpg');" src="http://img90.imageshack.us/img90/4585/km1lh8.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> เปิดขึ้นมา หลังจากติดตั้ง อ๊ะ มี บอกเวลา ด้วยแฮะ (ในกรอบ) screen.width-401) window.open('http://img152.imageshack.us/img152/3640/km2xg6.jpg');" src="http://img152.imageshack.us/img152/3640/km2xg6.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> audio mode เวลาเล่น mp3 หรือไฟล์เสียงอื่นๆ screen.width-401) window.open('http://img174.imageshack.us/img174/6718/km3pz8.jpg');" src="http://img174.imageshack.us/img174/6718/km3pz8.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> กดที่บอกในรูปเพื่อปรับ equalizer และแสดง playlist เหมือน WINAMP ได้ด้วยนะ แถมบอกไฟล์ที่เล่นบน MSN messenger หรือ windows live messenger ได้ด้วย(ต้องปรับแต่ง เดี๋ยวจะบอกข้างล่าง) ส่วนเรื่อง การแสดงภาษา โดยปกติ ไม่มีปัญหาครับ แสดงได้หลายภาษา ยกเว้นไม่ได้ติดตั้งให้ Windows รองรับ แต่ บางกรณีมันเป็นตัวยึกยือหรือสี่เหลี่ยมได้ คงต้องแก้ไข screen.width-401) window.open('http://img154.imageshack.us/img154/1574/km4ow1.jpg');" src="http://img154.imageshack.us/img154/1574/km4ow1.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> กดปุ่มในรูป เปลี่ยนเป็น shade mode จะทำให้กระทัดรัด ปกติผมชอบใช้มากกว่าปรับแบบ overlay ดังรูปด้านล่าง เพราะแบบ shademode มันไม่มีปัญหาเวลา สลับเล่น video กับ audio screen.width-401) window.open('http://img157.imageshack.us/img157/8144/km24hx6.jpg');" src="http://img157.imageshack.us/img157/8144/km24hx6.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ใช้ Shortcut Key หรือ ปุ่มลัดบน Keyboard เพื่อความสะดวกในการ ย่อ ขยาย (ในรูป กด1-4) กด 1 - Half Size (50%) กด 2 - Original Size (100%) กด 3 - One and a Half Size (150%) กด 4 - Double Size (200%) กด 5 - Full Screen (Normal) กด 6 - Full Screen (Stretch) กด 7 - Full Screen (Overscan) กด 8 - Maximum Window กด 9 - Desktop Mode ลองดูกันนะครับ ว่า เป็นอย่างไร screen.width-401) window.open('http://img291.imageshack.us/img291/8362/km5jg2.jpg');" src="http://img291.imageshack.us/img291/8362/km5jg2.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ใช้ mouse click ขวา หรือบางคนอาจจะเป็น ซ้าย บนหน้าต่าง ของโปรแกรมจะปรากฎ Main Control ดังรูป ซึ่งในรูปนี้จะแสดงการปรับแต่งในหัวข้อ Skins รูปข้างบน คือ ปรับแบบ Normal Skin Control หากปรับแบบอื่นๆจะได้ผลดังรูปด้านล่างครับ screen.width-401) window.open('http://img301.imageshack.us/img301/5715/km6ki2.jpg');" src="http://img301.imageshack.us/img301/5715/km6ki2.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ถ้าสังเกต จะเห็นว่าทำไม ในรูปด้านบน หน้าต่างของโปรแกรมจะมีสีในบางจุดเปลี่ยนไปไม่เหมือนกันหลายรูป เนื่องจากโปรแกรมจะทำการ random สี หากไม่ชอบก็ปรับให้ใช้เฉพาะสีได้ครับ โดย จะอยู่ที่ Color Themes ดังรูปด้านบน จากรูปด้านบนจะเห็น รายชื่อ Skin ซึ่งก็คือ (Build-in Skin) Default .ksf K-AMP5.ksf ซึ่งเป็นSkin ที่มีให้ตั้งแต่แรก ซึ่งสามารถหามาเพิ่มได้ครับ screen.width-401) window.open('http://img155.imageshack.us/img155/3519/km7wc8.jpg');" src="http://img155.imageshack.us/img155/3519/km7wc8.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> รูปนี้คือ Skin K-AMP5.ksf ใน Video Mode และ Audio Mode ซึ่งจะแสดงสีได้ชัดเจนกว่ามาก screen.width-401) window.open('http://img101.imageshack.us/img101/9726/km9gj8.jpg');" src="http://img101.imageshack.us/img101/9726/km9gj8.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ใน video mode ของ default skin กดที่ TOOLS และ PLAYLIST ซึ่งเขียนไว้ชัดเจน จะปรากฎหน้าต่าง Control Box และ playlist ตามลำดับ รูปต่อไป จะแสดงส่วนต่างๆใน Control Box ให้ดู ซึ่งมีลูกเล่นมากมาย ดังต่อไปนี้ screen.width-401) window.open('http://img247.imageshack.us/img247/6003/km91cz6.jpg');" src="http://img247.imageshack.us/img247/6003/km91cz6.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ใน Video Controlsจะมีแยกย่อย 3 หัวข้อ ให้เลือกคือ Color Effects และ Screen ลองเล่นดูนะครับ อันไหนเป็นอย่างไรบ้าง screen.width-401) window.open('http://img157.imageshack.us/img157/1497/km92hj4.jpg');" src="http://img157.imageshack.us/img157/1497/km92hj4.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ถัดมาเป็น Audio Controls มีแยกย่อย 2 หัวข้อ ได้แก่ 1.Equalizer ไว้ปรับแต่ง ความดังความถี่ของเสียงในช่วงต่างๆ มีตัวเลือกสำเร็จให้ โดยกด preset ครับ จะเอา pop rock หรือจะปรับเองแล้วแต่ 2.Effects screen.width-401) window.open('http://img293.imageshack.us/img293/7260/km93mo5.jpg');" src="http://img293.imageshack.us/img293/7260/km93mo5.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ถัดมาอีกเป็น Playback Controls มีแยกย่อย 2 หัวข้อ เช่นกัน คือ 1. Playback ไว้ปรับความเร็วในการเล่นได้ 2. ETC ในนี้มี Capture ให้ใช้ด้วย ซึ่งสะดวกมากๆ จะ capture เป็น videoclip frame ภาพนิ่ง และ audioเสียง ผมชอบ กดที่ frame เวลา capture ภาพจากไฟล์ video ที่เล่น จิ้มmouse รัวๆ ได้หลายภาพเวลาไม่แน่ใจ โดยปกติไฟล์ที่ captureจะอยู่ที่ C:\Program Files\The KMPlayer\Capture ครับ อันสุดท้าย ใน Control Box คือ preferences หรือ จะกด F2 เข้ามาปรับแต่งได้ เริ่มต้นที่เห็น ก็ ในส่วนของ General ถ้าคุณต้องการ ให้ชื่อไฟล์ ที่เล่น ปรากฎใน MSN หรือ Window Live Messenger อย่างรูปด้านบนละก็ อย่างลืม ทำเครื่องหมายถูก ในหัวข้อที่วงไว้ในรูปล่ะ screen.width-401) window.open('http://img172.imageshack.us/img172/6862/km94ph3.jpg');" src="http://img172.imageshack.us/img172/6862/km94ph3.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ตรงนี้เป็น ส่วนที่สำคัญ สำหรับ ผู้ที่ต้องการใช้ The Kmplayer สามารถเปิดไฟล์ ได้เลย แค่Double Click ใน Windows และ เวลาใส่ แผ่น VCD DVD จะมีให้เลือกใน Autoplay โดย เข้าไปปรับแต่งใน Preferences ในหัวข้อ Association/Capture ตามรูป โดยทำเครื่องหมายถูกตามที่ต้องการ แล้วจะได้ตามรูปด้านล่าง screen.width-401) window.open('http://img175.imageshack.us/img175/1992/km10xp3.jpg');" src="http://img175.imageshack.us/img175/1992/km10xp3.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0>
อ้างจาก :
บางคนคงอยากถามว่าแล้ว พวกSoft Subtitle ละ ใช้ได้ดีกับ โปรแกรมนี้ไหม เพราะ โปรแกรมประเภทเดียวกันอย่างVLC media player มันไม่ได้เรื่องเลยในเรื่อง Subtitleแบบนี้ที่ไม่ได้ฝังติดกับภาพ - ตอบว่าดีกว่าครับ ดีกว่าอย่างไร ดูภาพด้านล่างเลยscreen.width-401) window.open('http://img120.imageshack.us/img120/3779/km12ku7.jpg');" src="http://img120.imageshack.us/img120/3779/km12ku7.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> The Kmplayer สามารถ แสดง subtitle ได้ 3 ตัวทีเดียว แต่ อันที่3 จะอยู่ตรงกลาง ซึ่งปรับยังไงก็ยังอยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ ถ้าไม่ปรับแต่งตัวหนังสือมันจะดูไม่สวย ต้องเสียเวลาปรับแต่งอีก คำถาม - แต่ถ้าหากต้องการแสดงทั้ง3ตัวแต่ไม่ให้มีตัวใดมาอยู่ตรงกลางบังภาพล่ะ ทำได้ไหม คำตอบ- ได้ครับ ใช้ DirectVobsub(Vsfilter) ช่วยแบ่งไป 1ตัวครับ ดังรูปต่อไปนี้ screen.width-401) window.open('http://img441.imageshack.us/img441/777/km13bj1.jpg');" src="http://img441.imageshack.us/img441/777/km13bj1.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> สังเกตได้ว่า subtitle ที่แสดงผลด้วย DirectVobsub จะดูดีกว่า หลายๆคนก็มักใช้กัน ซึ่งมีอยู่แล้วใน K-lite codec pack หรือ codec pack ยี่ห้ออื่นๆที่มี เนื่องจากไม่ต้องปรับแต่งFont หรือ ตัวหนังสือให้วุ่นวาย ต่อไปจะเป็นอีก1 ตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ Directvobsub เพื่อแสดงผล subtitle ทำได้ดีกว่า screen.width-401) window.open('http://img186.imageshack.us/img186/7708/km14au6.jpg');" src="http://img186.imageshack.us/img186/7708/km14au6.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> อันนี้ไม่ใช้ Directvobsub screen.width-401) window.open('http://img154.imageshack.us/img154/1108/km23ji3.jpg');" src="http://img154.imageshack.us/img154/1108/km23ji3.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> อันนี้ไม่ใช้ Directvobsub แต่ปรับแต่งในโปรแกรม screen.width-401) window.open('http://img186.imageshack.us/img186/6471/km15yr1.jpg');" src="http://img186.imageshack.us/img186/6471/km15yr1.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> แต่อันนี้ใช้ Directvobsub รูปด้านบน แสดงให้เห็นตัวว่า The Kmplayer สามารถปรับแต่ง ให้ตัวหนังสือ หรือ Font ดูดีได้ และ แสดงผลคล้ายDirectvobsub แต่ไม่สมบูรณ์เท่า (อยู่ในหัวข้อ subtitles processing) ดังรูป screen.width-401) window.open('http://img151.imageshack.us/img151/2562/km22fx5.jpg');" src="http://img151.imageshack.us/img151/2562/km22fx5.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ทำเครื่องหมายถูก เพิ่มตรง Enable กับ Render in real time เท่าที่ทดสอบมา พบปัญหานิดหน่อย จึงแนะนำให้ใช้ Directvobsub ไปเลยดีกว่า โดยมีวิธีดังต่อไปนี้ 1. ต้องติดตั้ง Directvobsub ไว้แล้ว เช่นติดตั้งไว้แล้วจากCodecpack 2. เมื่อเปิด The Kmplayer ขึ้นมา ให้ ไปที่ preferences 3. ทำตามรูป มี 2 วิธี เลือกเอา แบบไหนก็ได้ ผมก็ไม่รู้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน screen.width-401) window.open('http://img186.imageshack.us/img186/6677/km16nu2.jpg');" src="http://img186.imageshack.us/img186/6677/km16nu2.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ต่อไป สำหรับ ใครที่ต้องการใช้ ตัวถอดรหัส จาก Codec Pack ที่ติดตั้งไปแล้ว หรือไม่อยากใช้ internal decoder ใน The KM player ก็เข้ามาที่ preferences เหมือนเดิม ทำดังรูปเลย screen.width-401) window.open('http://img181.imageshack.us/img181/8745/km17dr9.jpg');" src="http://img181.imageshack.us/img181/8745/km17dr9.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ถ้าหาก ต้องการ เปลี่ยนไปใช้ ตัวถอดรหัส (Decoder) จาก Codec pack ทั้งหมดเลย ให้เปลี่ยน เป็น Use After Failing to play with system default แต่ถ้าต้องการ เปลี่ยนเฉพาะบางตัว เนื่องจาก มีปัญหากับการเล่นไฟล์บางไฟล์แต่ถ้าใช้decoder ในcodec pack ไม่มีปัญหา ก็ ใช้ Use Always เหมือนเดิม แต่ ไปปรับแต่งเอาที่Internalกับ External Video Decoder ดังรูป screen.width-401) window.open('http://img406.imageshack.us/img406/3406/km18fo0.jpg');" src="http://img406.imageshack.us/img406/3406/km18fo0.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> เสร็จแล้วจะเป็นแบบนี้ ถ้าคุณมี Divx 6 decoder อยู่แล้วนะ ซึ่งอันนี้มาจาก k-lite mega codec screen.width-401) window.open('http://img181.imageshack.us/img181/1730/km19an8.jpg');" src="http://img181.imageshack.us/img181/1730/km19an8.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ผมเปลี่ยนเพราะผมว่า มันปรับแต่งได้ดีกว่า แต่สำหรับบางคนแค่ดูได้ไม่ปรับแต่งอะไรก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนครับ ในส่วนของ Audio Decoder ก็สามารถปรับแต่งแบบเดียวกันครับ ยังมีให้ปรับแต่งอีกเยอะ สำหรับผู้ที่ต้องการ ลองดูกันเองนะครับ มันเยอะมาก screen.width-401) window.open('http://img441.imageshack.us/img441/883/km20to4.jpg');" src="http://img441.imageshack.us/img441/883/km20to4.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> ถ้าหาก ต้องการ RESET การปรับแต่ง ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ตอนที่เพิ่งติดตั้งเสร็จ ให้กดที่ Reset Current Preset ครับ สำหรับใครที่ใช้ คอมพิวเตอร์ที่มี CPU ต่ำกว่า 1 GHz สามารถปรับโปรแกรมนี้ให้เหมาะสมได้ screen.width-401) window.open('http://img441.imageshack.us/img441/1088/km21dl2.jpg');" src="http://img441.imageshack.us/img441/1088/km21dl2.jpg" onload="if(this.width>screen.width-400)this.width=screen.width-400;" border=0> เท่าที่ทดสอบ กับคอมฯเครื่องเก่าPentium III 667 MHzใช้Windows2000 แล้ว ทำให้เล่นไฟล์ Avi(เช่นDivx+mp3) ไม่มีเหลื่อมล้ำ จากที่เคยใช้ Media player classic แล้วกระตุก มีเลื่อมล้ำ เสียงไปก่อนภาพ แต่บางไฟล์ก็ไม่สามารถช่วยได้จริงๆ กระตุกเหลื่อมล้ำเหมือนเดิม เช่นพวก mkv[เช่นh264+aac] พล่ามมาตั้งนาน เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างไม่เป็นไร สรุปว่า ดี แนะนำให้ใช้ครับ The KM Player+ K-lite Mega Codec pack คือ การผสมผสานอย่างลงตัว DOWNLOAD ที่ http://www.kmplayer.com/forums/showthread.php?t=4189 แนะนำ The KMPlayer 2.9.3.1210 Full Install version, 12,996,789 Bytes สำหรับ Skins http://www.kmplayer.com/forums/downloads.php?do=cat&id=2 ถ้าจำไม่ผิด ต้องสมัครสมาชิก ก่อนนะครับ ถึงจะ download skin ได้ หรือ จะ Download ที่รวบรวมให้แล้ว
ข้อความถูกซ่อนเอาไว้
กรุณาตอบในกระทู้นี้ จึงจะสามารถเห็นข้อความที่ซ่อนเอาไว้ขอขอบคุณ http://www.kmplayer.com/forums http://en.wikipedia.org/wiki/Kmplayer

แหล่งที่มา http://www.gamer-gate.net/index.php?a=bbs&b=view&id=33908&p=2

29 August 2008

รัชกาลที่2

ญวน พม่า และเขมรในสมัยรัชกาลที่ 2 ของไทย [29 ส.ค. 51 - 18:59]
สัปดาห์ก่อน นิติภูมิรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพถึงเขมร ลาว ญวน พม่า ฯลฯ ประเทศรอบบ้านของไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี วันนี้ขออนุญาตรับใช้เรื่องราวของประเทศเพื่อนบ้านในสมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งสมัยพระองค์ดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร พระองค์ทรงร่วมทำสงครามกับสมเด็จพระบรมชนกนาถหลายต่อหลายครั้ง
ดินแดนไทยที่ไม่มีพวกนุ่งโสร่งเป็นเจ้านายในปัจจุบันทุกวันนี้นั้น เป็น เพราะเรามีเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์กล้าเสด็จกรีธาทัพไปราชการสงครามต่อสู้กับ พวกต่างชาติอยู่เป็นนิตย์ ไทยจึงเป็นชาติยิ่งใหญ่ในสมัยต้นราชวงศ์จักรี
สมัยที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสวยราชย์ใหม่ๆ พระเจ้าปะดุงของพม่ากล้ายกทัพมาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ รัชกาลที่ 2 ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดหาทัพจากเมืองหลวงยกไปป้องกัน พวกพม่าจึงแตกกระจัดพลัดพราย กระเสือกกระสนหนีตาย วิ่งไปเพื่อให้พ้นคมดาบ ของมนุษย์พันธุ์ยูเลีย (ไทย)
พ.ศ. 2362 พม่าผลัดแผ่นดิน ได้ปะหยิ่น (กษัตริย์) ใหม่ พระเจ้าจักกายแมงได้ครองราชย์ พอมีข่าวเข้าหูว่าเกิดกู๊ซิ้ดหยอก้ะ (โรคระบาด) ในไทย ปะหยิ่นองค์นี้ก็ยุให้พระยาไทรบุรีตีหัวเมืองปักษ์ใต้ ส่วนทหารพม่าก็ชุมนุมสุมหัวอยู่ที่เมาะตะมะ ฝ่ายไทยได้ทราบ รัชกาลที่ 2 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดทัพไปสกัดไว้หลายแห่ง
ต่อมาพม่าทะเลาะกับอิงกะลิ (อังกฤษ) เรื่องเมืองยะไข่กับมณีปุระ สองประเทศที่ว่าหันหน้าเข้ามาซัดกัน ผลก็คือ อิงกะลิชนะ พม่าจึงตกเป็นขี้ข้าฝรั่ง และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พม่าไม่เคยเข้ามารบกับไทยอีกเลยจนกระทั่ง ปัจจุบันทุกวันนี้
ผู้อ่านท่านยังจำองค์เชียงสือของญวนได้นะครับ เมื่อเกิดกบฏไกเซิน พระองค์เข้ามาสวามิภักดิ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อไทยให้กำลังพลมอบคนไปช่วยปราบกบฏได้สำเร็จ องค์เชียงสือก็ตั้งตนเป็นกษัตริย์ พระนามว่า เจ้าพระยาลอง พระองค์ส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวายด้วยความระลึกนึกถึง ในพระมหากรุณาธิคุณตลอดรัชกาล ครั้นรัชกาลที่ 1 สวรรคต พระเจ้าเวียดนามยาลองยังได้ทรงจัดคณะทูตมาถวาย บังคมพระบรมศพ
ส่วนไอ้อกตัญญูไม่รู้คุณข้าวแดงแกงร้อนเห็นจะเป็นเจ้าเขมร ตอนรู้ว่าจามจะยกทัพมาตี นักองเองและพระญาติพระวงศ์เขมรเข้ามาพึ่งพระบรม โพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อนักองเอง ทิวงคตก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระยากลาโหมซึ่งเป็นฟ้าทะละหะ เป็นผู้สำเร็จราชการ พอฟ้าทะละหะถึงแก่กรรม ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักองค์จันทร์เป็นสมเด็จพระอุทัยราชาปกครองเมืองเขมรสืบต่อมา
ถึงสมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย คาดว่าจะมีศึกพม่าเข้ามารุกรานตอนผลัดแผ่นดิน จึงมีพระราชสาส์นตราไปถึงสมเด็จพระอุทัยราชาให้เกณฑ์ทัพเขมรเข้ามาช่วย แต่สมเด็จพระอุทัยราชาแกล้งเฉย
ส่วนพระมหาอุปโยราช พระยาจักรี พระยากลาโหม และพระยาสังคโลกยังนึกถึงข้าวแดงแกงร้อนของไทย จึงจะกะเกณฑ์กำลังไพร่พลมาช่วย สมเด็จพระอุทัยราชารู้ก็โกรธ สั่งให้พระยาแสนท้องฟ้า พระยาราชอาณา คุมกำลังไปจับพระยาจักรีและพระยากลาโหมฆ่าทิ้งทั้ง 2 คน ส่วนพระยาสังคโลกรู้ตัวทันจึงหนีเข้ากรุงเทพฯ
พระอุทัยราชาเกรงว่ามหาอำนาจชาติไทยจะไปปราบ จึงคลานกระดึบๆ ไปพึ่งญวน ไปทรงมุสากล่าวหาว่าพระยาสังคโลกเป็นกบฏ เจ้าญวนไม่รู้ความจริงก็ส่งทหารมาช่วย ครั้นความจริงปรากฏแท้แน่ชัดก็เลิกและยกทัพ กลับเวียดนาม
พระมหาอุปโยราชไม่พอพระทัยในการกระทำของเจ้าเขมร จึงพา ไพร่พลหนีมาตั้งอยู่ที่โพธิสัตว์ ทางกรุงเทพฯ รู้ข่าวก็ส่งเจ้าพระยายมราช ออกไปไกล่เกลี่ย แต่พระอุทัยราชาไม่ฟัง กลับหนีไทยไปอยู่ไซ่ง่อน เจ้าพระยา ยมราชจึงเผาเมืองพนมเปญ กะพงหลวง และบัณทายเพชร แล้วจึงเชิญเสด็จพระมหาอุปโยราชมากรุงเทพฯ
สมเด็จพระอุทัยราชากลับมาครองเมืองพนมเปญและยอมไปขึ้นกับญวน แถมตอนหลังยังยุญวนให้ยกทัพมาตีเมืองพระตะบองและเสียมราฐ แต่ไทยรู้ตัวก่อนจึงไล่ตีทัพญวนและเขมร ทหารเขมรกะญวนแตกทัพ วิ่งหนีทหารไทยไปยังกะหมูกะหมา
สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ไทยคือมหาอำนาจชาติอันดับหนึ่งใน “สุวรรณภูมิ”.
นิติภูมิ นวรัตน์
http://thairath.co.th/news.php?section=international01&content=102250

26 August 2008

ประวัติศาสตร์จีน อย่างย่อ ๆ

ยินดีต่อมหาอำนาจโลกชาติใหม่ [26 ส.ค. 51 - 15:33]

ขณะที่ ลากปากการับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพในฉบับอังคารวันนี้ผมกำลังชมพิธีปิดกีฬา โอลิมปิก ค.ศ.2008 ยอมรับนะครับว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ทำให้ทั้งโลกเชื่อได้แน่สนิทอย่างไม่ติดใจ ว่าสาธารณรัฐ ประชาชนจีนก้าวเข้าสู่ความเป็นมหาอำนาจชาติอันดับหนึ่งของโลกอย่างไม่มีข้อ กังขาสงสัย ไม่ว่าจะมีสื่อมวลชนคนไหนชาติใดกระแทกกระทุ้งพยายามดึงจีนให้ลงต่ำ ก็คงจะเล่นงานจีนได้ไม่สำเร็จ

ย้อนหลังไปในอดีตก่อนโน้น สองฟากฝั่งแม่น้ำฮวงโหมีมนุษย์เผ่าพันธุ์ ต่างๆ มากมายหลากหลายอาศัยอยู่ กระทั่งเมื่อ 4,600 ปีก่อน หวงตี้ชนะเหยียนตี้ ซึ่งเป็นทายาทของเสินหนงซื่อและซือโหยว จึงประกาศตัวตั้งตนขึ้นเป็นประมุขชนเผ่าต่างๆ มีแสนยานุภาพแผ่ไปในตลอดลุ่มน้ำตอนกลางไปจนถึงปากแม่น้ำฮวงโห

วันเวลานาทีที่หวงตี้ตั้งตนเป็นคนนำดินแดนแคว้นนี้นี่แหละครับ ประเทศจีนจึงอุบัติขึ้นมาในโลกมนุษย์ เวลาต่อมาไม่นานนัก เหวยจู่ มเหสีของพระเจ้าหวงตี้ก็ค้นพบวิธีเลี้ยงไหม พระเจ้าหวงตี้กับบรรดาผู้ช่วยก็เริ่มก่อร่างสร้างพระราชวัง ริเริ่มจัดทำเสื้อผ้าอาภรณ์ รัถนาวา อาวุธธนูคันศร เริ่มประดิษฐ์ตัวอักษร ระบบปฏิทิน ดนตรี มีการใช้เครื่องยาสมุนไพรในการรักษาโรคของผู้คนในปกครอง ฯลฯ

ต่อมามีการสถาปนาราชวงศ์ซย่า เป็นครั้งแรกที่มีตำแหน่งเจ้าผู้ครองราชย์ มีการสืบสันตติวงศ์ นำลูกหลานของกษัตริย์ขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์

ราชวงศ์แรกของจีนดำรงคงอยู่ได้ 500 ปี ก็มีราชวงศ์ซังขึ้นมาปกครองอีก 550 ปี ตามด้วยราชวงศ์โจว 770 ปี ก่อนที่ราชวงศ์ฉินจะขึ้นมาเป็นระยะเวลาสั้นๆ 15 ปี

ราชวงศ์ฮั่น 422 ปี ยุคสามก๊ก 46 ปี ราชวงศ์จิ้น 156 ปี ยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ 170 ปี ราชวงศ์สุย 38 ปี ราชวงศ์ถัง 290 ปี ยุคห้าราชวงศ์ สิบอาณาจักร 54 ปี

ราชวงศ์ซ่ง 320 ปี ราชวงศ์หยวน 98 ปี ราชวงศ์หมิง 277 ปี และราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้าย มนุษย์ในราชวงศ์ชิงครองราชย์อยู่ได้ยาวนาน 267 ปี

ราชวงศ์ของจีนสิ้นไป เพราะในรัชศกกวงซี่ว์ปีที่ 31 ดร.ซุนยัดเซน ร่วมมือกับหวงซิง รวมพลังจับมือกับสมาคมซิงจง หฺวาซิง และกวงฟู่ เข้าเป็นสมาคมเดียว เรียกว่า สมาพันธ์ถงเหมิงแห่งชาติจีน (ถงเหมิงฮุ่ย) โดยมีเป้าหมาย “ขับไล่แมนจู ฟื้นฟูชาติจีน สถาปนาประชาชาติ และกระจายสิทธิ์ครองที่ดิน”

ผู้คนศรัทธา ดร.ซุนยัดเซนแทนที่จะเชื่อถือศรัทธากษัตริย์ เพราะ ดร.ซุนยัดเซนเข้าใจความต้องการของประชาชนคนฟื้นราก ท่านประกาศหลักการสำคัญ 3 อย่างลงในหนังสือพิมพ์หมินเป้า คือ หลักการประชาชาติ ประชาธิปไตย และประชาชีพ

มนุษย์คนใดจากชาติพันธุ์ไหนก็ตาม ทำงานมุ่งมั่นปฏิวัติเปลี่ยนแปลงความเป็นไป โดยมีประสงค์เพียงเพื่อช่วยเหลือบุคคล ความมุ่งมั่นนั้นย่อมไม่เป็นผล คนบางกลุ่มของไทยก่อร่างสร้างพรรคการเมืองเพียงเพื่อแก้ไขสถานะของเจ้านาย เก่า อุดมการณ์ตื้นแคบอย่างนี้ ไม่มีวันประสบความสำเร็จดังที่มุ่งมาดปรารถนาหรอกครับ

ลองดูตัวอย่างการก่อตั้งของคนจีนที่ทำงานประสบความสำเร็จ

ดร.ซุนยัดเซนก่อตั้งสมาคมซิงจงตั้งแต่ พ.ศ. 2437 โดยมีเป้าหมายว่าจะ “ขับไล่อนารยชน ฟื้นฟูชาติจีน สถาปนารัฐบาลมหาชน” ทำคนเดียวอยู่ตั้งนาน ไม่ประสบความสำเร็จ จึงไปร่วมกับสมาคมหฺวาซิง ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2446 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะ “ขับไล่อนารยชน ฟื้นฟูชาติจีน” และไปรวมกับสมาคมกวงฟู่ ที่ก่อตั้งใน พ.ศ. 2447 สมาคมนี้มีคำขวัญ “ฟื้นฟูชาติฮั่น นำแผ่นดินคืน ร่างอุทิศให้ชาติ งานสำเร็จถอนตัว”

เมื่อรวมกันเป็น “พันธมิตรเพื่อการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์” แล้ว พวกนี้ก็ค่อยทยอยปฏิบัติการในยุทธการต่างๆ เช่น ยุทธการเนินดอกไม้เหลือง จนกระทั่งมีการสถาปนาสาธารณรัฐจีนเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2455 และสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492

59 ปีพอดีที่จีนดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรคนานานัปการ กว่าจะเข็นประเทศที่เคยถูกดูหมิ่นถิ่นแคลนจากบรรดาชาติตะวันตกว่ากระจอกงอก ง่อย ประเทศที่เคยถูกบางชาติเอเชียด้วยกันที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ หลอกกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำอีก

การเมืองที่นิ่ง ท้องทะเลเงียบสงบไร้พายุโหมโจมกระหน่ำ รัฐนาวาที่ลากสาธารณรัฐประชาชนจีนข้ามทะเลกว้างจึงสามารถพาได้มาถึงฝั�ง บรรลุฝันอันยิ่งใหญ่

ในฐานะที่เป็นคนไทยซึ่งเป็นชาติเอเชียด้วยกัน ในฐานะที่มีบรรพบุรุษบางท่านเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทย นิติภูมิขอแสดงความยินดีต่อมหาอำนาจชาติใหม่ของโลก....สาธารณรัฐประชาชนจีน

และขอขอบคุณสาธารณรัฐประชาชนจีนแทนชาวเอเชียที่ท่านทำให้คนเอเชียด้วยกัน รู้สึกว่า เผ่าพันธุ์ผิวเหลืองผมดำก็มีพละกำลังและมีโอกาสบนโลกใบนี้.

นิติภูมิ นวรัตน์

http://thairath.co.th/news.php?section=international01&content=101870

15 August 2008

ประวัติศาสตร์ไทย รัชกาลที่ 1

เขมร ญวน และพม่า ในสมัยรัชกาลที่ 1 [15 ส.ค. 51 - 19:55]

นิติ ภูมิได้รับคำแนะนำจากท่านผู้ใหญ่ให้ค่อยๆทยอยนำ ประวัติศาสตร์ไทยในส่วนที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับเพื่อนบ้านมารับใช้ ในคอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลก เพื่อให้เยาวชนคนไทยได้รู้ประวัติศาสตร์ ชาติของตัวอย่างแท้จริง เบื้องแรก ท่านแนะนำว่ายังไม่ต้องย้อนประวัติศาสตร์ไปให้ไกลนัก ควรเริ่มตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

กราบขอบพระคุณท่านที่กรุณาแนะนำ นิติภูมิมีความคิดเช่นนี้เหมือนกันครับ ขออนุญาตเริ่มต้นที่กรณีกัมพูชา ต้นรัชกาลที่ 1 เมื่อมีข่าวว่าจามจะยกทัพมาตีเขมร พระยายมราชและพระยากลาโหม (ปก) จึงพานักองเองและพระญาติพระวงศ์เขมรเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารรัชกาลที่ 1 ของไทย

สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงรับรองนักองเองอย่างพระราชบุตร บุญธรรม เมื่อไทยไปปราบจามได้แล้ว รัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักองเองกลับไปครองเมืองเขมร ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระนารายณ์รามาธิบดี” และให้พระยาอภัยภูเบศรปกครองเมืองเสียมราฐ พระตะบอง และศรีโสภณ โดยให้ขึ้นกับไทยโดยตรง

3 ปีต่อมา นักองเองทิวงคต จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระยากลาโหมซึ่งเป็นฟ้าทะละหะเป็นผู้สำเร็จ ราชการ พอฟ้าทะละหะถึงแก่กรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นักองจันทร์เป็น “สมเด็จพระอุทัยราชา” ไปปกครองเมืองเขมรสืบไป

เหตุการณ์ตอนปลายรัชกาลที่ 35 แห่งกรุงศรีอยุธยา ไทยเสียกรุงแก่พม่าเพราะความเสื่อมเรื้อรังในสถาบันการเมืองและสังคม คนไทยทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างรุนแรง บางกลุ่มทั้งดื้อทั้งบ้า ความเสื่อมยังมาจากการที่ไทยไม่มีผู้นำเด็ดขาด ไพร่พลก็ค้นหาแต่ความสุขสนุกสบาย ไม่พร้อมรบ และร้ายที่สุดก็คือ เกิดไส้ศึกภายใน

ราชอาณาจักรไทยแตกเมื่อ พ.ศ.2310 ต่อมา ไทยเราก็เข้าสู่ยุคกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปกครองบ้านเมืองอยู่นาน 15 ปี ไทยเราก็เข้ายุคกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อ พ.ศ.2325

ณ เวลานั้น ไทยยิ่งใหญ่และเรืองอำนาจที่สุดใน “สุวรรณภูมิ”

ไม่ต้องให้ใครศาลโลกไหนมาตัดสินว่าเขมรใช่ของไทยหรือไม่ หากประวัติศาสตร์อย่างนี้แพร่ขยายกระจายออกไปเป็นหลายภาษา ประชาชนคนทั้งโลกก็จะเข้าใจความยิ่งใหญ่ของคนพันธุ์ไทยในสุวรรณภูมิได้เป็น อย่างดี

ความยิ่งใหญ่ของไทยในสมัยแรกเริ่มกรุงรัตนโกสินทร์กระจายไปไพศาล แม้แต่ญวนก็ยังต้องยอมรับ รัชสมัยรัชกาลที่ 1 ของไทย ในเมืองญวนเกิดกบฏไกเซิน เจ้าในราชวงศ์ญวนคือองเชียงสือจึงเข้ามาสวามิภักดิ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอด ฟ้าจุฬาโลก พระองค์ทรงชุบเลี้ยงเป็นอย่างดี

ต่อมาองเชียงสือขอกำลังไปไทยไปปราบกบฏ โชคดีที่ตอนนั้นมีกองกำลังญวนอาสาสมัคร และกองทัพฝรั่งเศสเข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน พวกกบฏจึงแพ้ราบคาบ องเชียงสือเจ้าญวนที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงชุบเลี้ยงไว้ จึงได้ตั้งตนขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้ายาลอง พระองค์ทรงส่งเครื่องราชบรรณาการ มาถวายด้วยความระลึกในพระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่ 1 ตลอดรัชกาล

ส่วนพม่าที่เพิ่งชนะไทยไปเมื่อ 18 ปีก่อน ตอนหลังพระเจ้าปะดุง ได้สืบราชสมบัติ ก็ยกทัพอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรมาตีไทยถึง 7 ครั้งในสมัยรัชกาลที่ 1

มนุษย์พันธุ์ไทยในสมัยนั้นแข็งแกร่งและมีความสามัคคีสูง ถึงได้ชัยชนะในสงครามครั้งแรกที่พระเจ้าปะดุงจัดมาถึง 9 ทัพใหญ่ เจ้าพม่าพาทหารมามากมายก่ายกองถึงแสนสี่หมื่น ขณะที่ไทยเพิ่งเริ่มสร้างตัวและมีพลเมืองเพียงเจ็ดหมื่น

พ.ศ.2328 ไทยชนะพม่าในสงครามเก้าทัพ พม่าได้รับความอัปยศอดสู จึงเดินทางมาแก้ตัวใหม่ใน พ.ศ.2329 แต่ก็แพ้ไทยอีกที่ท่าดินแดง พ.ศ.2330 เรารบชนะพม่าที่ลำปางและป่าซาง และในปี เดียวกันนี้ ไทยยกทัพไปตีเมืองทวาย

3 ปีต่อมา เจ้าเมืองทวายขอสวามิภักดิ์ไทย พ.ศ.2340 กองทัพไทยตีพม่าแตกกระจายที่เชียงใหม่ และ พ.ศ.2345 พม่าแพ้ไทย ถูกไล่ออกจากเขตล้านนา

บัดนี้ กลาง พ.ศ.2551 การเมืองเรื่องยุ่งวุ่นวายของไทยได้สงบจบลง จึงเป็นโอกาสที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะได้มาร่วมชุมนุมสุมความคิด เพื่อรวมตัวช่วยกันสร้างราชอาณาจักรไทยให้ยิ่งใหญ่ เหมือนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช.

นิติภูมิ นวรัตน์


http://thairath.co.th/news.php?section=international01&content=100614

03 August 2008

การใช้งานคอม ฯ แบบลัด

30 ทริคเล็กน้อยเกี่ยวกับคอมพ์
1. ในขณะที่คุณกำลังจะ Restart เครื่องใหม่ ก่อนที่จะกดปุ่ม OK ให้คุณกด Shift ค้างไว้ จะทำให้คุณ Restart ได้เร็วขึ้น
2. ในบาง Web Site หากคุณกด Ctrl ค้างไว้ และเลื่อน Scroll ที่ Mouse จะทำให้ตัวอักษรของ Web Site นั้นใหญ่ขึ้น
3. หากกดปุ่ม Refresh หรือ F5 แล้วยังเป็นข้อมูลเดิม ลองกด Ctrl + F5 รับรองจะได้ข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดแน่ๆ
4. คุณสามารถเปิดไฟล์ Tips.txt ขึ้นมาเพื่ออ่านเทคนิคต่างๆ ได้ ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่ใน c:windows ของคุณ
5. ในระหว่างที่คุณกำหลังใช้งาน IE อยู่นั้น สามารถกดปุ่ม F4 เพื่อเป็นการเปิดดู URL List ในช่อง Address ได้เลย
6. การกดปุ่ม Esc ระหว่างการใช้ IE จะทำให้ IE ของคุณนั้นหยุดโหลดได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Stop
7. ระหว่างการใช้ IE สามารถกดปุ่ม Alt + D หรือ Ctrl + Tab เพื่อเข้า Address bar อย่างเร็วได้
8. คุณสามารถเพิ่มความเร็วให้กับ Internet ได้โดยทำการถอดสายเครื่องโทรศัพท์ ที่มีการต่อพ่วงอยู่กับสายที่ใช้ต่อ Internet ออก
9. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า welcome กด Enter เพื่อเปิดหน้าต่างต้อนรับของ Windows ได้
10. ที่ Notepad หรือ ICQ หากคุณลืมเปลี่ยน Mode ภาษา ให้กดปุ่ม Ctrl + Back Space เพื่อแก้คำที่พิมพ์ผิดไปแล้ว
11. คุณสามารถ เปิด Folder Desktop อย่างรวดเร็ว โดย Start -> Run พิมพ์จุด (.) ลงไปแล้วกด Enter
12. ใน IE สามารถกด Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้า Page ลงได้ ส่วนเลื่อนขึ้นคือ Shift + Space Bar
13. ใน Windows คุณไม่สามารถ สร้าง Folder ที่ชื่อ "con" ได้
14. ใน IE ที่ช่อง Address ปุ่ม Ctrl+Enter สามารถช่วยคุณ
ในการพิมพ์ URL ได้เร็วยิ่งขึ้น
15. การกด Ctrl ค้างเอาไว้ ตอนเวลา BOOT เครื่อง จะทำให้คุณไม่พลาด Startup Menu
16. คุณสามารถปิดนาฬิกาที่ Taskbar ได้ โดยคลิกขวาที่ Task bar > Properties > เอาเครื่องหมาย Show Clock ออก
17. หากคุณกด F11 ใน Windows Explorer จะช่วยให้มีการทำงานที่สะดวกขึ้น
18. ใน ICQ การส่ง Message หากคุณกด Ctrl+Enter จะสะดวก กว่าการ Click Mouse ที่ปุ่ม send
19. คุณสามารถกด F2 เพื่อ ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ Icon ต่างๆ ได้
20. การกด F5 ใน NotePad จะเป็นการแทรก เวลา และวันที่ ปัจจุบัน
21. การกด Windows + E จะเป็นเปิด Windows Explorer ขึ้นมา
22. เปิด System Properties อย่างรวดเร็วคือการกด Window + Pause Break
23. การย่อยทุกๆ หน้าต่างที่เปิดใช้งาน ให้ยุบไปให้หมด คือการกด Window + D ถ้าจะขยายคืนมาอีก ให้กดซ้ำ
24. การเคาะวรรคในโปรแกรม Dreamweaver คือ Shift + Ctrl + Space Bar ส่วนการเว้นบรรทัดคือ Shift + Enter
25. การลบไฟล์แบบ ไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin คือการกด Shift + Delete
26. การกด Shift ค้างไว้ เวลาใส่แผ่น CD-Rom จะเป็นการไม่ให้มันเปิด Autorun ของแผ่น CD-Rom นั้นขึ้นมา
27. การ Restart เครื่องอย่างเร็ว คือไปที่ Start -> Shut Down... -> Restart จากนั้น ก่อนที่จะ OK ให้กด Shift ค้างเอาไว้
28. ในระหว่างใช้ Browser คุณสามารถกดปุ่ม Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าลง และ Shift + Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้าขึ้นได้
29. กด Shift + คลิก จะเป็นการเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้อง back กลับ
30. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า hwinfo /ui กด Enter เพื่อดูรายงานต่างๆ ของ HardWare
ข้อมูลจาก : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1128937

01 August 2008

แง่คิด ดีๆ ของ ตอเรส


Fernando Torres: My inspiration


ชีวิตคนเรา "ความสำเร็จ" ส่วนหนึ่งได้มาจาก "แรงบันดาลใจ" และสำหรับยอดหัวหอกเจ้าของแชมป์ยูโรหมาดๆ อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส แห่ง "หงส์ แดง" ลิเวอร์พูล แล้ว แน่นอน เขามีแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจเพียบ

คุณเรียนรู้อะไรจากโค้ชคนแรก ?
ตอร์เรส : ผมมีโค้ชหลายคน ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แต่โค้ชคนแรกในเส้นทางอาชีพคือ มาโนโล่ รานเคล ที่ แอตเลติโก ซึ่งผมน่าจะอายุ 10 ขวบ เขาเป็น คนแรกที่บอกผมว่า ผมจะได้เล่นฟุตบอลในลีกสูงสุด แต่เขาก็เตือนผมว่าไม่ควรลืมหาความสุขให้ตัวเอง เขาจะให้เราเลือกการวิธีการซ้อมเอง ผลัดกันคนละวัน เขาจะถามหนึ่งในกลุ่มเด็กๆ ว่า - วันนี้อยากทำอะไร ? - คุณลืมรายละเอียดของมันเมื่อวันเวลาผ่านไป แต่สิ่งที่เขาสอนผมวันนั้นยังอยู่กับผม นั่นคือ สนุกกับตัวเอง
แล้วผู้คนตามท้องถนนหละ ?
ตอร์เรส : ผมจำวันที่ย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ได้ ผมอยู่ที่สนามบินมาดริด ผู้คนเยอะแยะ กล้องเต็มไปหมด มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ พ่อแม่ยังโมโหเลยที่ผมย้าย มีชายสูงอายุคนหนึ่ง เขาดูโมโห เดินมาและพูดว่า - น่าเสียดายที่นายย้ายจาก แอตเลติโก แต่ฉันรู้ว่า นายจำเป็นต้องย้ายไปเพื่อเติมเต็มศักยภาพตัวเอง และเพื่อเป็นใน สิ่งที่นายเป็นได้ เพื่อแสดงให้โลกรู้ในสิ่งที่เรารู้แล้ว แสดงให้เห็นว่านายเก่งยังไง - เมื่อคุณเล่นฟุตบอล นี่คือช่วงเวลาที่คุณได้รู้ว่า มีคนรัก-เป็นห่วงคุณในฐานะคนๆ หนึ่ง ผมเก็บคำพูดนั้นไว้ในใจ ผมเคยเจอแบบนี้มาบ้าง แต่นี่ต่างออกไป เขาเป็นลุงวัย 60 เป็นคนที่รัก แอตเลติโก ทั้งหัวใจ แต่วินาทีนั้นเขาเป็นห่วงผมมากกว่าสิ่งอื่น สิ่งที่ทำให้มันพิเศษมากขึ้นคือ ผมได้รู้ว่า นี่คือสิ่งที่ ฟุตบอลกำลังสูญเสียไปทีละนิด ผมจะเก็บคำพูดนั้นไว้กับตัวอีกนาน มันเป็นแรงผลักดันของผม
คุณพ่อสอนอะไรคุณบ้าง ?
ตอร์เรส : ผมว่าเราคือภาพสะท้อนของพ่อแม่ ผมไม่เคยทำตัวเด่น และจะขี้อายเวลาเป็นเป้าสนใจ แต่เมื่อไหร่ที่ผมออกมาอยู่ข้างหน้า ผมรู้ว่ามีพ่ออยู่ ข้างหลัง ผมจำได้ตอนอายุ 11-12 ขวบ และลงเล่นให้ แอตเลติโก ที่ เลกาเนส ซึ่งโค้ชตัดสินใจเปลี่ยนตัวผม มีคนมาดูเกม และเขาโห่ผม ผมเงยหน้า มองไปที่เขา และพ่ออยู่ที่นั่น ข้างๆ เขา พ่อ ไม่พูดอะไร ไม่แม้แต่จะชำเลืองมอง พูดต่อว่า หรือ หาเรื่องเขาอย่างที่ผู้ปกครองบางคนอาจจะทำ พ่อยืนเฉยๆ ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น พ่อเป็นแบบนี้ อยู่ตรงนั้น ให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางคนอาจเซอร์ไพรส์ แต่มันเป็นภาพสะท้อนบุคลิกของพ่อ วิถีทางที่พ่อเป็น การยอมรับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น และช่วงเวลานั้นผมได้เรียนรู้จากพ่อ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องอดทนให้ได้ เสียงด่า และ เสียงวิจารณ์จากคนที่ไม่รู้จักผม ผมเจอแบบนี้ในสนามที่เต็มไปด้วยคนดู แต่ผมรู้ว่าพ่ออยู่บนนั้น คอยดูผมอยู่
แล้วคุณแม่หละ ?
ตอร์เรส : ผมเรียนรู้เรื่องการเสียสละตัวเอง แม่เสียสละอะไรมากมายเพื่อเติมเต็มความฝันของผม แม่ไม่ทำงาน เพราะยุ่งกับการไปรับส่งผมที่สนาม ซ้อม จาก ฟวนลาบราด้า ไป มาดริด ซึ่งคุณต้องขึ้นรถไฟ ต่อด้วยรถบัส ตามด้วยการเดินข้ามสวนสาธารณะ เริ่มต้นตอน 8 โมงเช้า และอีกทีตอน 6 โมงเย็น ทั้งหมดเพื่อให้ลูกชายมีความสุข แม่-พ่อให้ความสำคัญกับการดูแลลูกชายของพวกท่านมากกว่าตัวเอง ผมมีความสุขเวลาเห็นคนรายล้อมมีความสุข มากกว่าตอนผมมีความสุขกับตัวเอง
แฟนของคุณ โอลาย่า ?
ตอร์เรส : ผมเรียนรู้จากเธอเช่นกัน มันจะเป็นแบบนี้ตอนคุณพบกับใครบางคนที่คุณอยากใช้ชีวิตด้วย คุณมีสิ่งต่างๆ มากมายร่วมกัน ได้เรียนรู้จาก กันและกัน สำคัญที่สุดเลยก็คือ พวกเขาให้ในสิ่งที่คุณไม่มี แฟนผมมีอิทธิพลอย่างเงียบๆ เมื่อไหร่ก็ตามผมรู้สึกหุนหัน เวลาอะไรๆ มันไม่ได้เป็นไปด้วยดี หรือเวลาเราแพ้ เธอรู้ว่าทำยังไงผมถึง จะเย็นลงเวลามองไปที่ปลายอุโมงค์แล้วไม่เห็นอะไรเลย หรือ ปลุกผมจากฝัน เธอผลักดันผมเวลาต้องการแรงใจ บางครั้งคนที่อยู่กับคุณอาจจะเป็นคนเดียวที่ช่วยคุณได้ เวลาคุณไม่มีความสุข
คุณเรียนรู้อะไรจากการเล่นกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ?
ตอร์เรส : ผมชื่นชม สตีเว่น เจอร์ราร์ด เพราะผมรู้ว่า เขาแบกรับความกดดันขนาดไหน คนพูดถึงเขาทุกวัน ผมรู้จากประสบการณ์ว่า การรับมือ เรื่องพวกนี้ยากขนาดไหน ซึ่งสิ่งที่เขาเจอนั้นอยู่คนละระดับ เพราะ ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ผมเป็นกัปตันทีมตั้งแต่อายุน้อยๆ ผมรู้ว่าทุกคนพูดเรื่องผม ผมรู้สึกได้เลย โดยเฉพาะเวลา อะไรๆ มันแย่ ทั้งหมดเกิดขึ้นกับ สตีวี่ ทุกวัน และเขารับมือกับมัน เขาถูกคาดหวังตลอดเวลา เขาโดนกดดันว่า ต้องเล่นให้ดี หวังเห็นเขาแสดงความเป็นผู้นำออกมา พาทีมไปข้างหน้า เขาเป็น แบบอย่างที่ดี พวกเราที่เคยอยู่ในสภาพแบบนั้นรู้ดีว่ามันรับมือได้ยากขนาดไหน สิ่งที่เขาแสดงออกเลยน่าเหลือเชื่อมาก ผมเองก็อยากเป็นกัปตันทีมของทีมๆ หนึ่งในอนาคต และ สตีเว่น แสดง ให้ผมดูว่า ผู้นำที่ดีเป็นยังไง
ได้อะไรจากผู้ตัดสินบ้างมั้ย ?
ตอร์เรส : อย่างแรกเลย พวกเขาไม่ใช่ศัตรู ! เราทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง นักเตะ-ผู้ตัดสิน สมัยอยู่ สเปน ผมจะคุยกับผู้ตัดสินเรื่องฟุตบอล และเรื่องนั้นเรื่องนี้และคุณรู้มั้ย เราไม่ควรบ่นการตัดสิน, โมโห หรือ ประท้วงมากไป เพราะท้ายที่สุด พวกเขาก็แค่พยายามทำงานให้ดีที่สุด เราอยู่ในวงการเดียวกัน แต่ละเกมมีผู้ตัดสินคนเดียว มี ครั้งหนึ่งผมจำเหตุการณ์ได้ไม่ละเอียดนัก แต่ผมรู้ว่าผมเป็นเป้าโดนด่า เขาเดินมาหาผม และพูดว่า - รู้แล้วหละสิว่า ผมรู้สึกยังไงบ้างในแต่ละสัปดาห์ - ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน ผมเคยแต่ต่อ ว่าพวกเขา ตอนนี้ผมพยายามช่วยพวกเขาบ้าง เราต้องรู้ว่าทุกคนต่างทำงานของตัวเอง
ราฟา สอนอะไรคุณบ้าง ?
ตอร์เรส : กระตุ้นตัวเองทุกวัน ห้ามผ่อนเด็ดขาด เวลาคุณอยู่ในทีมที่อะไรๆ ดำเนินไปด้วยดี นักเตะก็จะเริ่มทำตัวสบายๆ แต่คุณต้องผลักดันตัวเอง ตลอด อย่าชะล่าใจ พยายามมีวันที่ดีที่สุดเสมอ กับสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล แล้ว คุณจะมาทำตัวสบายๆ หลังจากยิง 20 ลูก และบอกว่า - เอาหละ พอแล้ว - ไม่ได้ หลังจากคุณยิงได้ 20 ลูก เบนิ เตส จะเคี่ยวคุณหนักต่อไป เขาต้องการสิ่งที่ดีที่สุดจากคุณทุกวัน เขาจะบอกคุณให้ทำโน่นทำนี่ด้วยตัวเอง และซ้อมแบบใหม่ๆ บางวันคุณจะคิดว่า - พระเจ้า ผู้ชายคนนี้ไม่ให้คุณได้หายใจหายคอ เลย! - ตอนนั้นคุณไม่คิดหรอกว่า เขาแค่อยากให้คุณพัฒนาตัวเอง ผมก็อยากมีชีวิตที่ก้าวหน้า ไม่ผ่อนตัวเอง ไม่หลงระเริง และคุณต้องการคนที่ใกล้ชิด กระตุ้นให้คุณก้าวต่อไป เราไม่วาดฝันว่า จะมีคนแบบนั้นอยู่ใกล้ชิดตัวเอง แต่ในระยะยาว ผมมั่นใจว่า ทุกคนจะคิดถึงเขา
แฟนบอลแอตเลติโก สอนอะไรคุณ ?
ตอร์เรส : ผมเป็นแฟนบอลแอตเลติโก ผมอยากมีโอกาสกลับไปที่นั่น บางทีผมอาจจะเจอพวกเขาใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ! และผมคิดว่าผมจะได้รับการ ต้อนรับที่ดี เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเจอแฟนบอลแอตเลติโก ผมมองตัวเองว่าเป็นหนึ่งในพวกเขา และนั่นคือสิ่งวิเศษสุด มันคงหนักหนามากหากวันไหนผมกลับไปที่นั่นแล้วไม่เป็นที่ต้อนรับ ผมคงทำ อะไรไม่ถูก ผมหวังว่ามันคงไม่เป็นอย่างนั้น
แล้วแฟนบอลลิเวอร์พูล หละ ?
ตอร์เรส : คุณนึกภาพกองเชียร์ที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว พวกเขาสนับสนุนทีมจริงๆ ทั้งช่วงเวลาที่ดีและแย่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาจะอยู่ข้างผม และทีม เมื่อคุณสวมเสื้อสีแดงของ ลิเวอร์พูล พวกเขาเชียร์คุณสุดหัวใจ เชียร์กันจนตาย พวกเขาไม่ตำหนิคุณเวลาพลาด เพราะคุณสวมเสื้อลิเวอร์พูล และพวกเขาไม่สนใจว่าชื่อหลังเสื้อจะเป็นใคร พวก เขาแฮปปี้กับนักเตะของพวกเขา และพวกเขาเป็นปลื้มเวลานักเตะเก่ากลับมากับทีมใหม่ เวลาสิ่งต่างๆ ไปด้วยดี พวกเขารักนักเตะของพวกเขา เวลาอะไรๆ ไปได้ไม่สวย พวกเขาก็ยังภูมิใจในทีม ตัวเอง ในฐานะนักเตะ เรารู้สึกได้ถึงแรงใจ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มจากพวกเขา นี่คือสิ่งแตกต่างใหญ่หลวงระหว่างที่นี่ กับ สเปน
นักข่าวที่เขียนข่าวคุณหละ ?
ตอร์เรส : ผมเรียนรู้อะไรมากมายจากนักข่าว ! ท้ายที่สุด พวกเรานักฟุตบอลค่อนข้างอวดดี ส่วนใหญ่จะบอกว่านักข่าวที่ดีคือคนที่เขียนข่าวเราดีๆ ส่วนนักข่าวที่แย่คือ คนที่ใส่ร้ายป้ายสีเรา ผมรู้ว่ามีบางคนที่เขียน และวิจารณ์ผมแย่ๆ ไม่ใช่ในแนวทางที่อยากช่วยผม แต่เล่นงานผม ผมไม่บอกหรอกว่าใคร พวกนี้ไม่มีค่าให้คิดถึง ผมอยาก แสดงให้เห็นว่าพวกนั้นคิดผิดมั้ย ? ไม่ว่าผมจะทำอะไร ผมทำเพื่อตัวเอง แต่ใช่ บางทีผมอยากทำให้พวกนั้นสำนึก ตอนนั้นเสียงด่าของพวกเขาอาจถูกแต่ตอนนี้ ทุกครั้งที่ผมลงสนาม ผมมั่นใจว่า พวกนั้นจะพูด หรือเขียนถึงผมแบบนั้นไม่ได้แล้ว
สุดท้าย คุณได้อะไรจากการเดินทาง หรือ สถานที่ที่คุณไปท่องเที่ยว ?
ตอร์เรส : ผมเคยไปสถานที่ที่ยากลำบากอย่าง โพลีเนเชีย, โบร่า โบร่า, อะเมซอน ใน บราซิล หรือบางที่ใน เม็กซิโก ที่ซึ่งผู้คนโดนเอาเปรียบ หรือแทบ ไม่มีอะไรเลย และสิ่งที่โดนใจผมที่สุดคือ คนที่มีน้อยที่สุดมักเป็นคนที่พร้อมจะให้มากที่สุดเสมอ มันปราศจากสิ่งฟุ้งเฟ้อ หรือ ความอิจฉาริษยาแบบที่เราเจอในโลกของเรา ผมได้พบกับคนที่มีน้ำใจ และพร้อมแบ่งปัน มันน่าเหลือเชื่อ และบางทีมันทำให้คุณตระหนักว่า นักเตะอย่างเราใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ไม่เป็นจริง ผมอยากหาเวลาไปใช้ชีวิตอยู่โดยปราศจากสิ่งต่างๆ รายล้อม ทั้งเงินทอง และ ความอิจฉา ผมหนีไปตามที่เหล่านี้ และมันทำให้ผมอยากแบ่งปันสิ่งต่างๆ กับทุกคน จากนั้นพอผมกลับมายุโรป มันจะแบบว่า - มันไม่เหมือนกันเลย ว่ามั้ย ?
แป๊ก
http://www.siamsport.co.th/Columnhotnews533.html