ยินดีต่อมหาอำนาจโลกชาติใหม่ [26 ส.ค. 51 - 15:33]
ขณะที่ ลากปากการับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพในฉบับอังคารวันนี้ผมกำลังชมพิธีปิดกีฬา โอลิมปิก ค.ศ.2008 ยอมรับนะครับว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ทำให้ทั้งโลกเชื่อได้แน่สนิทอย่างไม่ติดใจ ว่าสาธารณรัฐ ประชาชนจีนก้าวเข้าสู่ความเป็นมหาอำนาจชาติอันดับหนึ่งของโลกอย่างไม่มีข้อ กังขาสงสัย ไม่ว่าจะมีสื่อมวลชนคนไหนชาติใดกระแทกกระทุ้งพยายามดึงจีนให้ลงต่ำ ก็คงจะเล่นงานจีนได้ไม่สำเร็จ
ย้อนหลังไปในอดีตก่อนโน้น สองฟากฝั่งแม่น้ำฮวงโหมีมนุษย์เผ่าพันธุ์ ต่างๆ มากมายหลากหลายอาศัยอยู่ กระทั่งเมื่อ 4,600 ปีก่อน หวงตี้ชนะเหยียนตี้ ซึ่งเป็นทายาทของเสินหนงซื่อและซือโหยว จึงประกาศตัวตั้งตนขึ้นเป็นประมุขชนเผ่าต่างๆ มีแสนยานุภาพแผ่ไปในตลอดลุ่มน้ำตอนกลางไปจนถึงปากแม่น้ำฮวงโห
วันเวลานาทีที่หวงตี้ตั้งตนเป็นคนนำดินแดนแคว้นนี้นี่แหละครับ ประเทศจีนจึงอุบัติขึ้นมาในโลกมนุษย์ เวลาต่อมาไม่นานนัก เหวยจู่ มเหสีของพระเจ้าหวงตี้ก็ค้นพบวิธีเลี้ยงไหม พระเจ้าหวงตี้กับบรรดาผู้ช่วยก็เริ่มก่อร่างสร้างพระราชวัง ริเริ่มจัดทำเสื้อผ้าอาภรณ์ รัถนาวา อาวุธธนูคันศร เริ่มประดิษฐ์ตัวอักษร ระบบปฏิทิน ดนตรี มีการใช้เครื่องยาสมุนไพรในการรักษาโรคของผู้คนในปกครอง ฯลฯ
ต่อมามีการสถาปนาราชวงศ์ซย่า เป็นครั้งแรกที่มีตำแหน่งเจ้าผู้ครองราชย์ มีการสืบสันตติวงศ์ นำลูกหลานของกษัตริย์ขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์
ราชวงศ์แรกของจีนดำรงคงอยู่ได้ 500 ปี ก็มีราชวงศ์ซังขึ้นมาปกครองอีก 550 ปี ตามด้วยราชวงศ์โจว 770 ปี ก่อนที่ราชวงศ์ฉินจะขึ้นมาเป็นระยะเวลาสั้นๆ 15 ปี
ราชวงศ์ฮั่น 422 ปี ยุคสามก๊ก 46 ปี ราชวงศ์จิ้น 156 ปี ยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ 170 ปี ราชวงศ์สุย 38 ปี ราชวงศ์ถัง 290 ปี ยุคห้าราชวงศ์ สิบอาณาจักร 54 ปี
ราชวงศ์ซ่ง 320 ปี ราชวงศ์หยวน 98 ปี ราชวงศ์หมิง 277 ปี และราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้าย มนุษย์ในราชวงศ์ชิงครองราชย์อยู่ได้ยาวนาน 267 ปี
ราชวงศ์ของจีนสิ้นไป เพราะในรัชศกกวงซี่ว์ปีที่ 31 ดร.ซุนยัดเซน ร่วมมือกับหวงซิง รวมพลังจับมือกับสมาคมซิงจง หฺวาซิง และกวงฟู่ เข้าเป็นสมาคมเดียว เรียกว่า สมาพันธ์ถงเหมิงแห่งชาติจีน (ถงเหมิงฮุ่ย) โดยมีเป้าหมาย “ขับไล่แมนจู ฟื้นฟูชาติจีน สถาปนาประชาชาติ และกระจายสิทธิ์ครองที่ดิน”
ผู้คนศรัทธา ดร.ซุนยัดเซนแทนที่จะเชื่อถือศรัทธากษัตริย์ เพราะ ดร.ซุนยัดเซนเข้าใจความต้องการของประชาชนคนฟื้นราก ท่านประกาศหลักการสำคัญ 3 อย่างลงในหนังสือพิมพ์หมินเป้า คือ หลักการประชาชาติ ประชาธิปไตย และประชาชีพ
มนุษย์คนใดจากชาติพันธุ์ไหนก็ตาม ทำงานมุ่งมั่นปฏิวัติเปลี่ยนแปลงความเป็นไป โดยมีประสงค์เพียงเพื่อช่วยเหลือบุคคล ความมุ่งมั่นนั้นย่อมไม่เป็นผล คนบางกลุ่มของไทยก่อร่างสร้างพรรคการเมืองเพียงเพื่อแก้ไขสถานะของเจ้านาย เก่า อุดมการณ์ตื้นแคบอย่างนี้ ไม่มีวันประสบความสำเร็จดังที่มุ่งมาดปรารถนาหรอกครับ
ลองดูตัวอย่างการก่อตั้งของคนจีนที่ทำงานประสบความสำเร็จ
ดร.ซุนยัดเซนก่อตั้งสมาคมซิงจงตั้งแต่ พ.ศ. 2437 โดยมีเป้าหมายว่าจะ “ขับไล่อนารยชน ฟื้นฟูชาติจีน สถาปนารัฐบาลมหาชน” ทำคนเดียวอยู่ตั้งนาน ไม่ประสบความสำเร็จ จึงไปร่วมกับสมาคมหฺวาซิง ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2446 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะ “ขับไล่อนารยชน ฟื้นฟูชาติจีน” และไปรวมกับสมาคมกวงฟู่ ที่ก่อตั้งใน พ.ศ. 2447 สมาคมนี้มีคำขวัญ “ฟื้นฟูชาติฮั่น นำแผ่นดินคืน ร่างอุทิศให้ชาติ งานสำเร็จถอนตัว”
เมื่อรวมกันเป็น “พันธมิตรเพื่อการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์” แล้ว พวกนี้ก็ค่อยทยอยปฏิบัติการในยุทธการต่างๆ เช่น ยุทธการเนินดอกไม้เหลือง จนกระทั่งมีการสถาปนาสาธารณรัฐจีนเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2455 และสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492
59 ปีพอดีที่จีนดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรคนานานัปการ กว่าจะเข็นประเทศที่เคยถูกดูหมิ่นถิ่นแคลนจากบรรดาชาติตะวันตกว่ากระจอกงอก ง่อย ประเทศที่เคยถูกบางชาติเอเชียด้วยกันที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ หลอกกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำอีก
การเมืองที่นิ่ง ท้องทะเลเงียบสงบไร้พายุโหมโจมกระหน่ำ รัฐนาวาที่ลากสาธารณรัฐประชาชนจีนข้ามทะเลกว้างจึงสามารถพาได้มาถึงฝั�ง บรรลุฝันอันยิ่งใหญ่
ในฐานะที่เป็นคนไทยซึ่งเป็นชาติเอเชียด้วยกัน ในฐานะที่มีบรรพบุรุษบางท่านเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทย นิติภูมิขอแสดงความยินดีต่อมหาอำนาจชาติใหม่ของโลก....สาธารณรัฐประชาชนจีน
และขอขอบคุณสาธารณรัฐประชาชนจีนแทนชาวเอเชียที่ท่านทำให้คนเอเชียด้วยกัน รู้สึกว่า เผ่าพันธุ์ผิวเหลืองผมดำก็มีพละกำลังและมีโอกาสบนโลกใบนี้.
นิติภูมิ นวรัตน์
http://thairath.co.th/news.php?section=international01&content=101870
No comments:
Post a Comment